นักลงทุนที่ซื้อหุ้นของบริษัทในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปีนี้คงจะไม่ต้องบ่นอะไรมากนักเพราะหลังจากราคาหุ้นลงไปยังจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมก็สามารถกลับขึ้นมาได้อย่างสวยงามจากความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากได้เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีคลาวด์ การเก็บข้อมูลเอาไว้ในระบบส่วนกลางและการทำงานจากที่บ้านแล้วว่าจำเป็นขนาดไหนในช่วงวิกฤตโรคระบาด
อย่างไรก็ตามช่วงต้นเดือนกันยายน หลังจากที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์สามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดได้เป็นที่เรียบร้อยก็ได้ชะลอความร้อนแรงลง นอกจากจะมีเรื่องส่งครามการค้ามาเป็นประเด็นเพิ่มความตึงเครียดและสร้างปัญหาเกี่ยวกับการส่งออกแลกเปลี่ยนวัตถุดิบผลิตชิปแล้ว นักลงทุนบางส่วนเริ่มหันไปลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นที่ดูแล้วมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า
ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อมูลของสองบริษัทผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ชื่อดังที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดในช่วงโควิดระหว่างบริษัท AMD (NASDAQ:AMD) และ NVIDIA (NASDAQ:NVDA) เพื่อวิเคราะห์ว่าใครจะได้เปรียบกว่ากันหากว่าแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มนี้อีกครั้ง
AMD: กำไรที่มาจากการมุ่งเน้นขยายตลาด
หุ้น AMD กลับมาเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนได้มีการปรับตัวลดลง 15% รูปแบบที่มีคนเข้ามาซื้ออย่างรุนแรงในขณะที่กราฟกำลังย่อลงมาอยู่ไม่ใช่รูปแบบการเข้าถือหุ้นที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
จากความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้บริษัท AMD คาดหวังว่ากำไรในไตรมาสที่สามจะสามารถมีตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง $2,550 ล้านเหรียญสหรัฐและยังหวังว่ายอดขายจะสามารถเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 32% ในปีนี้ตามการคำนวณแบบปีบัญชีโดยมีกำลังสำคัญคือความแข็งแกร่งของลูกค้าในกลุ่มเกมมิ่งพีซีและบริษัทที่ต้องการทำศูนย์กลางข้อมูลด้วยเทคโนโลยีคลาวด์
นอกจากนี้บริษัท AMD ยังอยู่ในจุดที่ได้เปรียบคู่แข่งคนสำคัญอย่างบริษัท Intel (NASDAQ:INTC) หลังจากก่อนหน้านี้บริษัท AMD คือผู้ที่ตามหลัง Intel มานานในที่สุดก็สามารถตามทันและแซงคู่แข่งขึ้นไปได้เมื่อ AMD จับมือร่วมกับบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) ที่สามารถผลิตชิปคอมพิวเตอร์ได้ตามที่ AMD ต้องการ ในขณะที่ AMD เจ็บจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สู้ Intel ไม่ได้บริษัท TSM จะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เก็บข้อมูลและนำกลับมาสร้างชิปคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ ทั้งสองบริษัททำแบบนี้มาเรื่อยๆ จนสามารถชนะ Intel ได้ในที่สุด
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนออกมาผ่านราคาหุ้นของ AMD ที่ตลอดทั้งปี 2020 สามารถวิ่งขึ้นมาได้แล้ว 85% นักวิเคราะห์บางคนยังบอกอีกว่ามีโอกาสที่หุ้น AMD จะขึ้นไปได้อีกซึ่งหมายความว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่หุ้น AMD วิ่งลงมา นั่นหมายถึงโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น
นักวิเคราะห์นาม Cowen วิเคราะห์สถานการณ์ของหุ้น AMD ว่า
“AMD ตอนนี้อยู่ในจุดที่ดีที่สามารถอาศัยความผิดพลาดของ Intel กลายเป็นจุดส่งตัวเองขึ้นสู่ความสำเร็จได้ หุ้นของบริษัทอาจสามารถขึ้นถึง $100 ได้เลย คิดเป็นขาขึ้นจากราคาปัจจุบันอีก 20% นอกจากนี้หุ้นของ AMD มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเพราะฝั่งเกมคอนโซลกำลังจะวางขายเครื่องเกมรุ่นใหม่ภายในปีนี้ ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) มี Xbox Series X ในขณะที่โซนี่ (NYSE:SNE) มี Playstation 5 ซึ่งทั้งสองเครื่องจะใช้ชิปของ AMD เป็นตัวประมวลผลเช่นเดียวกัน”
เชื่อว่าทันทีที่เครื่องเกมทั้งสองวางขาย ความต้องการชิปของ AMD จะเพิ่มขึ้นตามยอดขายของเครื่องเล่น Xbox และ Playstation โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองบริษัทเลือกที่จะวางขายในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญ ล่าสุดหุ้น AMD มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $84.48 ปรับตัวลงตลอดทั้งวัน -1.94%
NVIDIA: เกมเมอร์คือลูกค้าคนสำคัญ
ขาขึ้นอันทรงพลังของหุ้น NVIDIA ในระหว่างช่วงวิกฤตโรคระบาดคือสิ่งที่แยก NVIDIA ออกจากบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์อื่นๆ ตลอดทั้งปี 2020 หุ้น NVIDIA ปรับตัวขึ้นมาแล้วมากกว่า 130% ถือเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ฟิลาเดเฟียที่ตลอดทั้งปีทำผลงานขาขึ้นได้เพียง 23% ล่าสุดหุ้น NVIDIA มีราคาปิดอยู่ที่ $549.40 ปรับตัวขึ้น 0.69% ตลอดทั้งวัน
ถึงกระนั้นความจริงที่ว่าบริษัท NVIDIA ได้รับผลกระทบจากความต้องการชะลอตัวไม่ต่างจากหุ้นวัฐจักรอื่นๆ ก็เป็นเรื่องจริง ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงหันไปสนใจว่าบริษัทจะมีชิปคอมพิวเตอร์เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มเกมเมอร์และผู้ที่ต้องการทำศูนย์กลางข้อมูลหรือไม่
NVIDIA คือผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยอมรับจากเหล่าเกมเมอร์เสมอมา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา NVIDIA สามารถก้าวไปอีกขั้นเมื่อสามารถประยุกต์เทคโนโลยีของบริษัทให้เข้ากับตลาด AI ได้ซึ่งเป็นธุรกิจที่สามารถทำเงินเป็นหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเดือนที่แล้ว NVIDIA ได้ตอกย้ำความต้องการไปต่อในโลกเทคโนโลยี AI จริงๆ เมื่อบริษัทยินดีที่จะซื้อบริษัท ARM Ltd. ในราคา $40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันเทคโนโลยีของอาร์มถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนจำนวนหลายพันล้านเครื่องทั่วโลก หากพูดว่า ARM คือผู้อยู่เบื้องหลังมือถือชื่อดังของโลกอย่างไอโฟน (iPhone) ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้แอปเปิล ซิลิกอนรับรองว่าต้องร้อง “อ๋อ” กันอย่างแน่นอน
แม้จะมุ่งหน้าเข้าสู่โลกของ AI แต่รายได้หลักของ NVIDIA ยังคงมาจากลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซี GeForce ของ NVIDIA ยังเป็นที่ยอมรับในวงการ สามารถให้ภาพด้วยประสบการณ์สมจริงและนั่นทำให้ NVIDIA กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของผู้ที่ต้องการประกอบคอมพิวเตอร์พีซี ล่าสุด NVIDIA พึ่งจะปล่อยชิปกราฟฟิกรุ่นใหม่ “GeForce RTX 3090” ว่ากันว่าชิปตัวนี้มีความแรงกว่าเดิมสองเท่า สามารถให้ภาพและความเร็วได้ตามที่เกมเมอร์ต้องการ
จากการทะยานขึ้นตลอดทั้งปีทำให้ NVIDIA ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีค่า PE สูงมากด้วยตัวเลขที่ 95 มากกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ย 30 ของบริษัทในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ถึงสองเท่า จึงไม่แปลกใจเลยหากเมื่อใดที่หุ้น NVIDIA วิ่งลง นักลงทุนในตลาดจะคิดเพียงแค่ว่า “นี่คือการย่อเพื่อเข้าใหม่” นายแมท ไบรสัน นักวิเคราะห์จาก Wedbush ได้ปรับราคาเป้าหมายของหุ้น NVIDIA ขึ้นจาก $525 เป็น $600 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพร้อมทั้งแนะนำว่าหุ้น NVIDIA คือตัวเลือกที่นักลงทุนควรมีเอาไว้ในพอร์ต
โดยสรุปแล้ว
ทั้ง AMD และ NVIDIA ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งคู่เพราะทั้งสองบริษัทอยู่ในช่วงที่มีอัตราการเติบโตและสามารถสร้างผลงานที่เหลือเชื่อได้อยู่ตลอด แต่หากต้องเลือกตัวใดตัวหนึ่งเราขอแนะนำให้เป็น AMD เพราะมีความปลอดภัยสูงกว่าในขณะที่ NVIDIA มีมูลค่าในตลาดที่มากเกินไปในเวลานี้ แต่หากคุณเป็นักลงทุนระยะยาว เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นหุ้นทั้งสองย่อตัวลงมาอย่าลืมเก็บหุ้นเหล่านี้ไว้ในพอร์ตการลงทุนของคุณด้วย