คาด SET INDEX มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อกรอบ 1300 –1309บรรยากาศการลงทุน วันนี้ไม่สดใสเท่าไรนักจาก Nikkei ที่แกว่งแดนลบราว 0.18% ขณะที่เมื่อคืน Dow Jones ก็ปรับฐานลงราว 0.78% จากแรงทำกำไรประกอบกับคาดเผชิญแรงกดดัน จากกลุ่มน้ำมัน (PTT (BK:PTT) PTTEP) หลังราคาน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 1.2% ทั้งนี้ มุมมองดัชนียังให้เป็นลักษณะ Sideway มากกว่าที่จะปรับฐานลงแรง หรือ ปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบพร้อมๆกัน (+) ยังคงเป็น เรื่องของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย (-) Valuation ที่ยืนระดับสูง Forward PE21 ที่ +1.5SD ในรอบ 10 ปี
มองบริเวณ 1290 +/- เป็นแนวรับแรก ทั้งนี้ด้วยนโยบาย การเงินที่ผ่อนคลายไปอีกสักระยะจะเป็นบวกมากสุดต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าที่มี Valuation ไม่แพง , มีเงินปันผลระดับ 4% มอง RATCH น่าสนใจสุด ถัดมามองไปยังหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่าง CK ในช่วง 1H20 ผล ประกอบการถูกกดดันจาก (1) บริษัทลูก (BEM CKP) BEM ถูกกระทบจาก ผู้โดยสารที่หายไปประกอบกับ CKP เผชิญผลประกอบการขาดทุนตามภาวะภัย แล้ง (2) รายได้ธุรกิจรับเหมาที่หายไปจาก Backlog ที่เหลืออยู่เพียง 3 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 18% (เทียบจุดสูงสุดเดิมกับจุด ต่ำสุดล่าสุด) เชื่อว่าสะท้อนความอ่อนแอของงบ 2Q20 ไปแล้ว ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเห็นการฟื้นตัว HoH และ CK จะเป็นรับเหมาก่อสร้าง เพียงตัวเดียวที่ผลประกอบการแข็งแกร่งสุดหนุนจากบริษัทลูก (BEM CKP) BEM ผู้ใช้บริการได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า ส่วน CKP จะเข้าสู่ช่วงปัจจัยฤดูกาลตามฝนที่ตกลงมา
Stock Pick
RATCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 74.5 บาท) เราเข้าประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหาร มาในสัปดาห์ก่อนมุมมองหลังการประชุมเป็นไปในทิศทางเชิงบวก คาดผล ประกอบการ 3Q20 จะเห็นการเติบโตทั้ง QoQ YoY สนับสนุนจาก (1) การกลับมา เปิดโรงไฟฟ้าหงสาหลังจากปิดดำเนินการไปราว 4 เดือน ตั้งแต่ช่วง มี.ค. (2) โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวจะเข้าสู่ช่วงปัจจัยฤดูกาลจากฝน ด้านราคาหุ้นที่ปรับ ฐานลงมาจากจุดสูงสุดเดิม 21% เชื่อว่าสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 2Q20 ไปแล้ว ส่งผลให้ราคาปิดล่าสุดเงินปันผลน่าสนใจถึง 4.3% ต่อปี ขณะที่เป็น โรงไฟฟ้าที่มี Valuation ต่ าซื้อขายเพียง 17.2x Trailing PE เทียบกับ BGRIM ซื้อ ขายสูงถึง 53x
CK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26 บาท) เราคาดผลประกอบการ 2Q20 ผ่านจุดเลวร้าย ที่สุดไปแล้วจากนี้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมี งานรับเหมารออยู่ 2 งานใหญ่ (1) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (2) โครงการเขื่อนที่ลาว หากบริษัทได้ทั้ง 2 งานนี้เข้ามาจะเพิ่ม Backlog เข้ามา 1.9 แสนล้านบาท เป็นปัจจัย บวกต่อรายได้ในช่วง 2H21 ส่วนครึ่งปีหลัง 2H20 บริษัทจะเป็นเพียงรับเหมา ก่อสร้างตัวเดียวที่ผลประกอบการฟื้นตัวแข็งแกร่งสุดหนุนจากรายได้บริษัทลูก
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th