TPI Polene Power (BK:TPIPP) เตรียมประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ พร้อมโครงการใหญ่ภาคใต้
Our Take
► บริษัทฯ รายงานความคืบหน้าการก่อสร้าง Boiler B13-15 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจะเริ่ม COD Boiler B13 เดือนก.ย. ขณะที่ Boiler B14-B15 จะเริ่ม COD ช่วงปลายปี 2563
► บริษัทฯ อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงาน RDF เพื่อรองรับความต้องการใช้ RDF ที่สูงขึ้นจากอัตราใช้ กำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นตามการ COD Boiler นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาสัญญาขาย ไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า TG-7 จากเดิมใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าให้แก่ TPIPL เป็นใช้ RDF ผลิตไฟฟ้าขายให้ EGAT ด้วยสัญญาขายไฟฟ้า 40 MW หากเจรจาสำเร็จจะเป็น Upside ต่อประมาณการ เบื้องต้น คาดรายได้ 1.2 พันล้านบาท/ปี คาดเสร็จสิ้นกระบวนการ-เริ่มขายไฟฟ้าได้ปี 2565
► สำหรับการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพื่อชดเชยรายได้ของโรงไฟฟ้าในมือที่จะลดลงภายหลัง สัญญาค่าไฟฟ้า Adder เริ่มสิ้นสุดในปี 2565ได้แก่ โรงไฟฟ้าที่จังหวัดสงขลา สัญญาขายไฟฟ้า 8 MW ราคา 5.78 บาท/หน่วย และค่ากำจัด ขยะ 400 บาท/ตัน ผู้บริหารประเมินรายได้ 4 ร้อยล้านบาท/ปี และงบลงทุน 2 พันล้านบาท โครงการนี้ป ระกาศ TOR แล้ว คาดยื่น Bidding ภายในเดือนก.ย. ซึ่งแข่งขันด้าน ผลตอบแทนให้แก่รัฐมากกว่าราคาค่าไฟฟ้า (รู้ผลภายใน 30 วัน)และจะเซ็นสัญญาภายใน สิ้นปี 2563
ผู้บริหารค่อนข้างมั่นใจต่อโครงการนี้ หากเป็นผู้ชนะประมูล จะเริ่มก่อสร้างได้ กลางปี 2564 ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน และจะ COD ได้ปี 2566 โรงไฟฟ้าที่เทศบาลนากลาง จังหวัดนครราชศรีมา ผู้บริหารคาดประกาศ TOR เดือน ก.ย.นี้ และจะรู้ผลประมูลช่วงสิ้นปี 2563 เบื้องต้นคาดสัญญาขายไฟฟ้า 8 MW ราคา 5.78 บาท/หน่วย และค่ากำจัดขยะ 400 บาท/ตัน ประเมินรายได้ 4 ร้อยล้านบาท/ปี และงบลงทุน 2 พันล้านบาท
โครงการนี้ TPIPP มีข้อได้เปรียบ เพราะปัจจุบันจังหวัดนครราชศรีมาส่งขยะ มากำจัดที่โรงงานของ TPIPP ในจังหวัดสระบุรีอยู่แล้ว หากชนะประมูลจะ COD ได้ปี 2566 โรงไฟฟ้าที่เทศบาลเมือง จังหวัดนครราชศรีมา ผู้บริหารคาดประกาศ TOR เดือนก.ย.นี้ และจะรู้ผลประมูลช่วงสิ้นปี 2563 เบื้องต้นคาดสัญญาขายไฟฟ้า 9.9 MW ราคา 5.78 บาท/ หน่วย และค่าก าจัดขยะ 400 บาท/ตัน ประเมินรายได้ 5 ร้อยล้านบาท/ปี และงบลงทุน 2.2 พันล้านบาท หากชนะประมูลจะ COD ได้ปี 2566
► สำหรับการลงทุนพัฒนาโครงการพื้นที่ชายฝ่ังทะเลภาคใต้(SEZ) ที่อำเภอจะนะ จังหวัด สงขลา ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า ท่าเรือน้ำลึก เมืองอัจฉริยะ มูลค่ารวม 3.9 แสน ล้านบาท ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าจะหาพันธมิตรเข้าลงทุนในบางธุรกิจที่บริษัทไม่เชี่ยวชาญ ปัจจุบัน TPIPP ลงทุนซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้ว 1.1 หมื่นไร่ (7 พันล้านบาท) และจะทยอยซื้อเพิ่มอีก 5 พันไร่ (4-5 พันล้านบาท) เรามองว่าโครงการนี้เป็นการลงทุนระยะยาว หากประสบความส าเร็จจะ สร้างการเติบโตให้บริษัทอีกมาก แม้ต้องผ่านการพัฒนาอีกหลายปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปลี่ยนสี ผังเมืองเพื่อเดินหน้าสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าราคาที่ดินเริ่มปรับตัวขึ้นจาก การผลักดันโครงการของภาครัฐ
► กำไรปกติ1H63 คิดเป็น 46% ของทั้งปีแนวโน้ม 2H63เร่งตัวขึ้น HoH หนุนจากปริมาณขายไฟฟ้า ที่สูงขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยการติดตั้ง Boiler และปัญหาเกี่ยวกับสายส่งของ ส่วนกลางไม่เกิดขึ้นซ้ำ คงประมาณการกำไรปกติปี2563 ที่4,608 ล้านบาท (+3% YoY) และปี 2564 ที่4,739 ล้านบาท (+3% YoY)
► คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 5.00 บาท จากมูลค่าของโรงไฟฟ้าในมือที่น่าสนใจ ด้วย PER63-64 เฉลี่ยระดับ 8x และผลตอบแทนเงินปั นผลปี2563-2564 เฉลี่ย 6-7% ต่อปี(บน สมมติฐานที่อนุรักษ์นิยม) โดยวานนี้ (25 ส.ค.) บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวด 1H63 ที่ 0.12 บาท/ หุ้น (Yield 2.8%)
นอกจากนี้ ประมาณการ และราคาเหมาะสมยังมีUpside จาก 1) การเข้า ประมูลโรงไฟฟ้าใหม่ตามต่างจังหวัด 2) มีโอกาสสูงเป็นผู้พัฒนาโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ก้าวหน้าแห่งอนาคตที่อำเภอจะนะ (รอได้รับ PPA ผลิตไฟฟ้า) รวมทั้ง 3) มูลค่าที่ดินรอการพัฒนาที่ จังหวัดสงขลาเป็น Hidden asset
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities