ราคาทองภาคค่ำ ( 6 ส.ค.) ระยะสั้นราคายังทรงตัวในระดับสูง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่าคณะรัฐบาลกําลังเจรจากับแกนนําพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขยายการจ่ายเงินเยียวยา ขณะเดียวกัน เขากําลังพิจารณามาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยปกป้องอุตสาหกรรมสายการบินและป้องกันไม่ให้พนักงานถูกไล่ออก ซึ่งกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสียงและ สร้างแนวโน้มเชิงบวกต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

แม้ว่าประเด็นดังกล่าว จะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคํา แต่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมือง ระหว่างสหรัฐกับจีน พยุงราคาทองคําไว้ หลังนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ทําการแบนแอปพลิเคชันต่างๆ ของจีน ทั้งนี้ ในระยะสั้น ราคาเคลื่อนไหวในกรอบทรงตัวในระดับสูง หากราคาทองคําไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2,056 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทําให้ราคาทองคําอ่อนตัวลงมา แนะนําเข้าซื้อหาก ราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,033-2,028 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะคาดว่าราคาน่าจะกลับขึ 6นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 2,056 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปโซน 2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวโน้ม Gold Spot: ราคาทองคําเกิดการดีดตัวกลับขึ้นไปพยายามทดสอบแนว ต้านโซน 2,056 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดสุดเป็นประวัติการณ์) หากราคา สามารถขึ้นไปยืนได้ น่าจะมีแรงซื้อเก็งกําไรกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่หากราคาไม่ สามารถผ่านแนวต้านไปได้ มีแนวโน้มเกิดแรงขายทํากําไรออกมาและอาจทําให้ ราคาปรับตัวลงไปอีก โดยประเมินแนวรับที่ 2,033-2,028 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อัพเดตราคาทองคำ GOLD SPOT XAU/USD

กลยุทธ์ Gold Futures: Long Position นักลงทุนควรลดความเสี่ยงโดยการปิดสถานะทํากําไรหากราคา ทองคําไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,056 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อรอไปขายที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 2,069 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำหรับนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์ส อัพเดตราคา สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ล่าสุด

Short Position นักลงทุนสามารถปิดสถานะหากราคาทองคําลงมาบริเวณ 2,033- 2,028 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากหลุดแนวดังกล่าว ก็สามารถรอทํากําไรบริเวณ แนวรับต่อไปบริเวณ 2,011 ดอลลาร์ต่อออนซ์

Open New หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคําอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือโซน 2,033-2,028 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง(ตัดขาดทุนหากหลุด 2,028 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และ ทยอยขายทํากําไรเมื่อราคาทองคําไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 2,056 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้สามารถถือต่อ

บทวิเคราะห์จาก YLG BULLION