รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

FINANCE&SECURITIES ลดเพดานดอกเบี้ยมีผลถาวร กดดันกำไรหุ้นสินเชื่อบัตร

เผยแพร่ 05/08/2563 10:54
อัพเดท 09/07/2566 17:32

Event
► หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจวานี้ระบุว่าทาง ธปท. ได้ยืนยันถึงการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 2 ที่มีการปรับลดเพดานดอกเบี้ยของสินเชื่อบัตรเครดิตจาก 18% เหลือ 16% สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียน (บัตรกดเงินสด) จาก 28% เหลือ 25% รวมถึงสินเชื่อ จำนำทะเบียนรถจาก 28% เหลือ 24% ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 เป็นมาตรการที่มีผล “ถาวร” ไม่ใช่เพียง “ชั่วคราว” ส่วนมาตรการขั้นต่ำเช่นการให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างหนี้ระยะสั้น เป็นหนี้ระยะยาวและการลดอัตราการผ่อนชำระจะมีผลถึงช่วงสิ้นปี (ที่มา:https://www.prachachat.net/finance/news-500607)

Our Take

► เรามีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากการปรับลดเพดานดอกเบี้ยในหลายผลิตภัณฑ์ตามข่าวแม้ไม่ได้เป็นประเด็นใหม่แต่นักลงทุนทั่วไปบางส่วนอาจเข้าใจว่าการปรับลด เพดานดังกล่าวเป็นมาตรการชั่วคราว ทำให้คาดจะเกิดความกังวลเมื่อ ธปท. ยืนยันว่าจะดำเนินมาตรการดังกล่าวเป็นการถาวร กดดันบรรยากาศลงทุนในช่วงสั้น ทั้งนี้เราประเมินว่าการปรับลด เพดานดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีผลต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ภายใต้ Coverage ของเราดังนี้

► หุ้นกลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภค ได้แก่ (BK:KTC) และ (BK:AEONTS)เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั้ง จากสินเชื่อบัตรเครดิตที่ส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยกับลูกหนี้ใกล้เคียงกับเพดานดอกเบี้ยเดิมที่ 18% อยู่แล้ว ทำให้เมื่อเพดานดอกเบี้ยต่ำลงจะกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยรับค่อนข้างมาก ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลคาดได้รับผลกระทบไม่มากเพราะคิดดอกเบี้ยใกล้เคียงกับเพดานดอกเบี้ยใหม่อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาเราได้ปรับลดประมาณการของทั้ง KTC และ AEONTS ให้สอดคล้องกับเพดานดอกเบี้ยใหม่ไปแล้ว

► หุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ได้แก่ SAWAD และ MTC คาดได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัด โดย MTC มีการจัดเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ในอัตราที่ต่ำกว่า 24% ส่วน SAWAD ได้รับผลกระทบ เฉพาะส่วนของสินเชื่อ Low Yield ที่มีการให้สินเชื่อผ่าน S2014 (เรียกเก็บดอกเบี้ยรวม ค่าธรรมเนียมราว 25%) แต่พอร์ต High Yield ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยมากกว่า 24% (เพดานสูงสุด อยู่ที่ 36%) ทั้งในส่วนของ Car for Cash และ Land for Cash ที่ปล่อยสินเชื่อผ่านบริษัทย่อย BFIT ไม่ได้รับผลจากมาตรการดังกล่าว เนื่องจากเป็นบริษัทเงินทุนที่ดำเนินงานภายใต้กฎหมาย คนละฉบับกับ Non-Bank รายอื่น ► หุ้นกลุ่มบริหารสินทรัพย์ อย่าง BAM ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากประเด็นดังกล่าว

► เราคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่ม Finance“เท่ากับตลาด” โดยแม้เรามองว่าผลดำเนินงานจะเริ่ม ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ 3Q63 หลังผ่านพ้นช่วง Lock Down และการตั้งสำรองมีแนวโน้มเริ่มผ่อนคลายลง แต่กลับมีปัจจัยกดดันในช่วงกลาง-ยาว จากการเข้ามารุกตลาดสินเชื่อ Non-Bank ของ ธนาคารออมสินซึ่งมีข้อได้เปรียบในเรื่องต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่ามากและฐานลูกค้าธนาคารที่ใหญ่ซึ่งคาดจะเห็นแผนการตลาดของทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของธนาคารออมสินภายใน 6 เดือนนับจากนี้ ส่งผลให้การแข่งขันในตลาด High Quality (Low Yield) มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เราจึงมองว่าผู้เล่นที่มีความสามารถในการแข่งขันใน ตลาด Mid to Low Quality (High Yield) อย่าง SAWAD (TP70) จะยังเป็นผู้เล่นที่สามารถ แข่งขันได้ในระยะยาว เนื่องจากมีความได้เปรียบในเรื่องความเร็วในการให้บริการและเกณฑ์ใน การพิจารณาสินเชื่อที่ผ่อนปรนมากกว่า รวมถึงสามารถดำเนินธุรกิจ High Yield ได้ผ่าน BFIT ที่สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยได้สูงกว่า Non-Bank รายอื่น และคงแนะนำเป็น Top Pick ของ กลุ่ม Finance

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

คือดอกเบี้ยส่วนบุคลดีๆนี่เอง ส่วนทางกับการดำเนินงานเยียมมาก ในมุมองส่วนตัวตรงๆ การลงทุนทุกคนต้องคาดหวังในผลตอบเเทน ถ้าไม่ได้ผลตอบเเทนจะลงทุนไปทำไม ขอยกตัวอย่าง อาบังปล่อยกู้1000 ดอกเบี้ย20ต่อเดือน ย้ำต่อเดือนเเต่ถ้า100ละ10เก็บวันละ100เป็นเวลา11วัน=1100 ใน1เดือนมี30วัน อาบังปล่อยกู้ ใน1เดือน ทั้งรายเดือน ได้100/20 เเละในรายวันดำเนินงานตลอดเดือนในอัตราเท่ากัน เก็บดอกทุกวันวันละ100 ตลอด11วัน อาบังจะได้เงินต้นเเละดอกมากกว่ารายเดือนเพิ่มขึ้น....เเละในการลงทุนในสถาบันระดับประเทศ .ละ ตั้งคำตอบรอไว้เลย.????????ความติดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบคุณสำหรับบทความที่ดี ขอบคุณครับ
ในด้านเทคนิค การลดดอกเบี้ย ส่วนบุคคลน่าจะอธิบายในมุมมองที่หลากหลาย ขอคุณครับสำหรับบทความ.
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย