รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

คาดกำไรกลุ่มสินเชื่อบัตรเครดติถูกกดดัน รอฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

เผยแพร่ 01/07/2563 13:21
อัพเดท 09/07/2566 17:32

คาดกำไร (BK:KTC) และ (ไทยแลนด์) จำกัด (BK:AEONTS)จะถูกกดดันด้วยยอดใช้จ่ายและกำลังซื้อนประเทศที่เบาบาง หลังจากที่ ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระยะที่ 2 พบว่า ราคาหุ้นกลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภคอย่าง KTC และ AEONTS ปรับลงราว 4.7% และ 12.6% เนื่องจาก ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปรับเพดานดอกเบี้ยทั้ง 1) บัตรเครดิตลดลงจาก 20% ต่อปี เหลือ 18% ต่อปี และ 2) ลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลลดลงจาก 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี สร้างความกังวลต่อทิศทางผลดำเนินงานของทั้ง 2 บริษัท

สำหรับช่วง 2Q63 เราประเมินกำไรสุทธิของ KTC 1,360 ลบ. เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.7%YoY โดยคาดพอร์ต สินเชื่อจะทำได้เพียงทรงตัว YoY แม้รวมผลจากมาตรฐานบัญชีใหม่ (รวมลูกหนี้ที่ถูก Write-Off ไปแล้ว) เนื่องจากบริษัทเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อใหม่บวกกับการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่เบาบางลง ในช่วงปิดห้างปิดเมือง ขณะที่ปัจจัยหนุนหลักจะมาจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองคาดลดลง 7.7%YoY จากฐานสูงในปีก่อนที่มีการเร่งตั้งสำรองเพื่อ Write-Off หนี้เสียออกไปมากเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ และการลดค่าใช้จ่ายการตลาด

ส่วน AEONTS คาดมีกำไรในช่วง 1Q63 (สิ้นงวดเดือน พ.ค.) 717 ลบ. หดตัว 27.3%YoY โดยมีปัจจัยกดดันหลักจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองที่คาดจะเร่งตัวขึ้นมากราว 48%YoY ทำให้ Credit Cost เพิ่มขึ้น เป็น 9.6% จากเพียง 6.7% ใน 1Q62 หลังปรับใช้ TFRS9 เป็นไตรมาสแรก และบริษัทเตรียมตั้งสำรอง พิเศษแบบ Management Overlay เพื่อรองรับความเสี่ยงของคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่ได้รับผลกระทบ จาก COVID-19 อีกทั้งยอดสินเชื่อเช่าซื้อคาดลดลงมาก โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์มือสองที่ ได้รับผลจากการปิดเมืองปิดห้าง อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยบวกบางส่วนจากกำไรขายลูกหนี้ที่จะเข้ามาในไตรมาสนี้ (คาดอยู่ที่ 300 ลบ.) และแผนลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดอย่างเข้มงวด คาดทำให้ Cost to Income Ratio ลดลงเหลือ 42% จาก 44.9% ในปีก่อน

ครึ่งหลังของปี ลุ้นฟื้นตัว ตามกิจกรรมทาง ศก. ที่กลับมาเป็นปกติ ช่วง 2H63 เราคาดทิศทางผลดำเนินงานของทั้ง KTC และ AEONTS ยังโต YoY เล็กน้อยจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากลูกหนี้ NPL ตาม TFRS9 แต่จะเริ่มได้รับผลกระทบจาก Asset Yield ที่มีแนวโน้มอ่อน ตัวลงจากผลของมาตรการปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. (เดิมสินเชื่อบัตรเครดิตคิด ดอกเบี้ยกับลูกหนี้ในระดับที่ใกล้เคียงกับเพดานอยู่แล้ว)

ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล ไม่กระทบเพราะคิดดอกเบี้ยจริงต่ำกว่าเพดาน ทั้งนี้คาดช่วง 2Q63เป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากคาดพอร์ตสินเชี่อจะกลับมา ขยายตัวอีกครั้งสอดคล้องไปกับกิจกรรมทาง ศก. ที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังทยอยเปิดเมืองตั้งแต่เดือน มิ.ย. แต่การฟื้นตัวคาดจะค่อยเป็นค่อยไปแบบ U Shape ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดลดลง ตามแผนควบคุมค่าใช้จ่ายการตลาด และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง หนุนให้เราคาดกำไรทั้งปี 2563 ของ KTC และ AEONTS ที่ 5,782 ลบ. โต 4.7%YoY และ 3,714 ลบ. หดตัว 6.6%YoY ตามลำดับ

คาด KTC ฟื้นตัวเร็วกว่า AEONTS จากพอร์ตสินเชื่อที่เน้นการบริโภคเกือบทั้งหมด แม้ช่วงสั้นคาดทั้ง KTC(TP@38) และ AEONTS(TP@164)จะถูกกดดันด้วยผลประกอบการในช่วง 2Q63 ที่คาดจะไม่ดีนัก แต่คาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นตามลำดับ ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับตัว ลงคาดตอบรับประเด็นลบดังกล่าวไปมากแล้ว จนราคาหุ้นกลับมามี Upside 26.7% และ 52.6% ตามลำดับ ซึ่งมีความน่าสนใจมากพอที่จะลงทุนเพื่อรอการฟื้นตัวของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเราให้น้ำหนักลงทุน KTC มากกว่า AEONTS เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดเป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภคซึ่งสามารถฟื้นตัวได้เร็วเมื่อการบริโภคในประเทศฟื้นตัวเริ่มกลับมา ขณะที่ AEONTS มี สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์มือสองราว 10% ของพอร์ต ทำให้การฟื้นตัว ของพอร์ตสินเชื่อจะใช้เวลานานกว่า KTC

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย