: ประเมินตลาดหุ้นไทยปรับลดลงวันนี้ตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยคาดว่าในระยะสั้นเม็ดเงินทั่วโลกมีโอกาสไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้งโดยเฉพาะในสหรัฐฯ หลังความกังวลเรื่องการระบาดรอบ 2 ของ COVID-19 มีมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหยุดชะงักได้ในส่วนของตัวหุ้นคาดเม็ดเงินที่อยู่ในตลาดหุ้นจะหลบจากกลุ่ม Cyclical มาเข้าสู่กลุ่มหุ้น Defensive และกลุ่มที่อิงกับปัจจัยในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้จากการตรวจสอบมิติ Valuation ต่างๆของเรา พบว่ามีสิ่งที่น่าสนใจก็คือว่า แต่ละ Model ต่างบ่งชี้ระดับดัชนี SET ที่เหมาะสมที่บริเวณ 1300-1330 จุด ทั้งสิ้น
ดูกราฟ SET INDEX
- ในเชิงกลยุทธ์: สำหรับผู้ที่ลดพอร์ตในช่วงต้นสัปดาห์ตามที่เราแนะนำมา แนะนำ Wait & See และรอจนกว่าดัชนีจะปรับลงไปที่ระดับ Fair value ตาม Model ของเราจึงค่อยทำการเพิ่มน้ำหนักหุ้นรอบใหม่ โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจยังคงเป็นกลุ่มที่เรามองว่ามี Valuation ถูก อย่าง BANK และ PROP รวมถึงหุ้นในกลุ่ม Bunker stock ที่เราแนะนำตั้งแต่ต้นเดือนว่าปลอดภัยจากปัจจัยภายนอก ซึ่งได้แก่
- กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, EGCO
- กลุ่ม ICT ได้แก่ ADVANC, INTUCH
- กลุ่ม Mass transit ได้แก่ BEM, BTS
- กลุ่มธุรกิจ AMC ได้แก่JMT
- กลุ่มอาหาร ซึ่งถือแม้ว่าจะได้รับแรงกดดันบ้างจากปัจจัยเงินบาทแข็งค่า แต่ธีมการบริโภคสินค้าส่งออกของเราที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะยังเกิดขึ้นได้ต่อไป หากหลายๆประเทศทั่วโลกยังต้องคงระดับ Lockdown ต่อไปจากความกังวลของการระบาด COVID-19 รอบ 2 โดยมีตัวที่เกี่ยวข้องได้แก่ CPF, TFG, GFPT, ASIAN, CFRESH, CHOTI, APURE, SUN, RBF, XO, MALEE
- 1300-1330: คาดการณ์เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะสั้นมีโอกาสที่จะไหลกลับไปสู่ตลาดบอนด์มากขึ้น จนกว่า SET จะลงไปอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่ทำให้ค่า Earning yield gap (EYG) ปรับตัวเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยจากการ Update Valuation Model ของเราล่าสุด พบผลลัพธ์ที่น่าสนใจก็คือว่า จาก Model การคำนวณทั้ง 3 วิธี พบว่าระดับ SET ที่เหมาะสมจะไปตกอยู่ในช่วงบริเวณ 1300-1330 จุดทั้งสิ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ระดับ SET ที่จะทำให้ค่า EYG ของตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับพันธบัตรสหรัฐฯกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 4.36% จะอยู่ที่ระดับ 1330 จุด
- ระดับ SET ที่จะทำให้ค่า EYG ของตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับพันธบัตรไทยกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 3.93% จะอยู่ที่ระดับ 1300 จุด
- ระดับ SET ที่เหมาะสมในกรณีฐานตามวิธี PE Model ของเราที่มีค่า Forward PE อยู่ที่ 15.7 เท่า และอิงกับประมาณการ EPS ปีหน้าที่ 84 บาท จะอยู่ที่ระดับ 1320 จุด(รูปที่ 3)
Fed balance sheet: ทั้งนี้ มีประเด็นที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อคืนนี้ แต่ตลาดอาจจะไม่ได้พูดถึงมากนัก นั่นก็คือการชะลอการซื้อสินทรัพย์ของ Fed อย่างมีนัยสำคัญในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหากดูการเพิ่มขึ้นของขนาดงบดุล Fed ในช่วงเวลาดังกล่าว จะพบว่ามีการขยายเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น หรือคิดเป็นการเติบโต WoWเพียงแค่ 0.05% ทั้ง 2 ตัวเลขถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่การประกาศ QE รอบใหม่ของ Fed เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และการเพิ่มขึ้นที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์ถือว่าต่ำกว่าตัวเลขเฉลี่ยต่อสัปดาห์ที่ Fed สาขา New York ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างมาก ประเด็นดังกล่าวสะท้อนถึง Action ของ Fed ที่เริ่มสวนทางกับคำพูดเชิง Dovish ใน Statement และจากนาย Jerome
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
บทความห้ามพลาด
|
|