ประเด็น1: ผลการสำรวจตลาดพบว่า Unlimited Prepaid Package ทยอยลดลง เราทำการสำรวจ Package ในตลาดมือถือในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
1) ตลาด Prepaid: Unlimited package เริ่มถูกถอนออกจากตลาด Prepaid เฉพาะส่วน 150 บาท ต่อเดือน กับ 200 บาทต่อเดือน ตั้งแต่วันที่16 พ.ค.63 แต่ยังคง Package 60 บาทต่อเดือน และ 90 บาทเดือนอยู่ในตลาดเช่นเดิม ซึ่งเป็น Package ที่ให้ Speed ต่ำกว่าและไม่นิยมเท่าสอง Package แรกที่ถูกถอนออกไป
2) ตลาด Postpaid: Unlimited package ยังไม่ถูกถอนออกไป (BK:ADVANC) พยายามถอนออกจากตลาด แต่คู่แข่งไม่ทำตาม ทำให้ยังคงมีการแข่งขันรุนแรง
ความเห็น:
ความพยายามของ AIS ที่จะประคองตลาดมือถือให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง มีพัฒนาการที่ดีขึ้น หลังก่อนหน้าพยามถอน Package ออกจากตลาด Prepaid แต่คู่แข่งไม่ทำตาม หากผู้ประกอบการทุกรายถอน Unlimited ทั้งหมดออกจากตลาดในมิ.ย.63 ตลาด Telecom จะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่2H63 ผู้ประกอบการเริ่มให้น้ำหนักน้อยลงกับการแย่งส่วนแบ่งการตลาดและกลับมาร่วมกันสร้างมูลค่าตลาด เนื่องจากเศรษฐกิจที่หดตัวแรงและการอุดหนุนให้ภาครัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชน กดดันให้ผู้ประกอบการทุกรายได้รับผลกระทบหนักในช่วงเดือนเม.ย.63-พ.ค.63 แม้ภาพการฟื้นตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและต้องระวังการแข่งขันที่อาจกลับมารุนแรงเมื่อ ADVANC เริ่มนำเสนอ 5G แต่ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการมีโอกาสร่วมกันประคอง ตลาดมากกว่า หนุนการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่ม Mobile Operators ใน 2H63
ประเด็น2: กสทช.อาจขยายเวลาจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีให้ผู้ประกอบการ เลขาธิการ กสทช. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เปิดเผยว่า กสทช. อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรูปแบบของการขยายเวลาการชำระค่าธรรมเนียมรายปีและค่า USO (ค่า Regulatory fee ราว 1.5% ของรายได้และค่า USO fee ราว 2.5% ของรายได้) ให้กับผู้ประกอบการกลุ่ม ICT และกลุ่ม Media โดยอาจให้ผ่อนจ่ายได้ 50% ใน วันที่ครบก าหนดช าระช่วงกลางปี นี ้ขณะที่อีก 50% ให้จ่ายได้ภายหลังอย่างไรก็ดีมาตรการทั้งหมด ต้องรอผลการประชุมบอร์ดกสทช. วันที่ 27 พ.ค. (Source: ประชาชาติธุรกิจ)
ความเห็น: การเลื่อนจ่ายจะช่วยให้การบริหารกระแสเงินสดของบริษัทฯดีขึน แต่ในงบกำไรขาดทุนยังคงมีภาระจ่ายเช่นเดิมไม่มีผลกระทบต่อประมาณการของเราและตลาด ดังนั้นข่าวดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยหนุนเชิง Sentiment เท่านั้น ADVANC มีค่าใช้จ่าย Regulatory cost สูงที่สุด ราว 6 พันล้านบาทต่อปี จากรายได้ที่สูงที่สุด ตามมาด้วย DTAC และ TRUE ที่ราว 3 พันล้านบาทต่อปี หุ้นในกลุ่ม ICT ขนาดเล็กที่มี License การประกอบกิจการกับ กสทช. เช่น ITEL (Non-rate) หรือ INET (Non-rate) ก็จะได้รับ Sentiment เชิงบวกเช่นกัน เพราะจะช่วยหนุนกระแสเงินสด
คำแนะนำ: เราเลือก ADVANC (TRADING - TP THB220.00) และ DTAC (BUY TP THB 55.00) เป็นตัวแทนเก็งกำไรการฟื้นตัวของตลาดมือถือใน 2H63 ADVANC ราคาหุ้นปรับลด 5% ในเดือนพ.ค.63ราคาหุ้นปัจจุบันให้ปันผลคาดหวังที่3.4% ต่อ ปีและซื้อ ขาย บน EV/EBITDA ที่ 8.3x มี Downside จำกัด หากตลาดมือถือกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในระยะสั้น หุ้นจะเริ่มยืนได้และมีโอกาสปรับขึ้นไปสู่ระดับ +/-200 บาทได้ DTAC 1H63 ยังปลอดภัยเนื่องจากไม่มีการลงทุน 5G ที่รุนแรง และมีความแข็งแรงกว่าคู่แข่งใน ภาวะตลาดหดตัวจากฐานรายได้ส่วนใหญ่เป็นลูกค้า Postpaid ขณะที่ภาพ 2H63 จะเริ่มด้อยลง หากการแข่งขัน 5G เริ่มเกิดขึ้น จากความสามารถในการแข่งขันที่ต่ำกว่าคู่แข่ง TRUE (TRADING TP 3.80) เป็นตัวเลือก Laggard ของกลุ่ม (BK:TRUE) มี Downside จำกัด และ หุ้นอยู่ใน Zone ถูก แต่การปรับขึ้นต้องรอผ่านงบ 2Q63 ที่เราคาดขาดทุนอีกไตรมาสไปก่อน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities