รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทำไมนักลงทุนจึงไม่ควรเชื่อการคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบของโลกมากนัก?

เผยแพร่ 15/05/2563 15:07

หากคุณเป็นผู้อ่านที่ติดตามบทความของฉันเป็นประจำจะรู้ว่าฉันจะพยายามเตือนไม่ให้เชื่อข่าว บทความ การวิเคราะห์ที่เป็นการคาดการณ์มากจนเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์ที่มองไปถึงอนาคตระยะยาว สำหรับนักลงทุนถือเป็นความเสี่ยงที่การวิเคราะห์ของพวกเขามีโอกาสโดนข้อมูลเหล่านี้เข้าไปเปลี่ยนมุมมอง ความคิด ทัศนคติให้เอนเอียงไปในทิศทางที่ไม่เหมาะสมกับระบบการลงทุนหรือทัศนคติในการลงทุนของเขา

หนึ่งในสาเหตุที่ฉันไม่แนะนำให้เชื่อการคาดการณ์เพราะทุกครั้งที่สถาบันทางการเงินหรือหน่วยงานรัฐที่เชื่อถือได้ปล่อยข้อมูลเหล่านี้ออกมาตัวเลขเหล่านั้นมักจะเปลี่ยนแปลงไปเสมอ พวกเขามักเปลี่ยนตัวเลขตามข้อมูลหรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน และในบทความนี้เราจะมาดูข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณความต้องการน้ำมันในปี 2020 ที่เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ

จากข้อมูลในรายงานภาพรวมตลาดพลังงานระยะสั้นของ EIA ที่พึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมระบุว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในโลกปี 2020 จะมีตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 92.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับปี 2019 เฉพาะในเดือนเมษายนที่ผ่านมา EIA ได้คาดการณ์ตัวเลขเอาไว้ที่ 95.5 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่ากับว่าภาพรวมที่ EIA เผยข้อมูลออกมาหายไป 3% แม้แต่ EIA เองที่เป็นมาตรฐานในการใช้ข้อมูลอ้างอิงตลาดน้ำมันยังมีการเปลี่ยนแปลง หมายความว่าที่พวกเขาคาดการณ์ในเดือนเมษายนนั้นคาดเคลื่อนและเราควรจะเชื่อข้อมูลในเดือนพฤษภาคมใช่หรือไม่?

ตามกันมาติดๆ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา OPEC พึ่งปล่อยข้อมูลรายงานราคาน้ำมันดิบในตลาดประจำเดือนซึ่งพวกเขาเผยว่าความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2020 จะลดลง 9.07 ล้านบาร์เรลต่อวันเหลือเพียง 91.10 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น สำหรับเดือนเมษายนโอเปกคาดว่าความต้องการน้ำมันดิบตลอดทั้งปีอยู่ที่ 92.82 ล้านบาร์เรล หายไป 1.9% ภายในเวลาแค่เดือนเดียว แบบนี้ัแล้วอีก 2 เดือน 3 เดือนหรือ 1 ปีข้างหน้าจะเป็นเช่นไร?

Rystad Energy ได้อัปเดตตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบเป็นรายสัปดาห์ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม Rystad Energy คาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบของโลกในปี 2020 จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 88.7 ล้านบาร์เรลต่อวันลดลงจากตัวเลข 90.5 ล้านบาร์เรลต่อวันจากที่คาดการณ์เอาไว้ในเดือนที่แล้ว คิดเป็นเปอร์เซนต์แล้วเท่ากับว่าลดลงเกือบ 2%

ข้อมูลตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงเหล่านนี้ในเดือนเมษายนมาจนถึงเดือนพฤษภาคมรายงานเป็นเสียงเดียวกันว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบลดลงและนั่นส่งผลกระทบต่อเชื้อเพลิงที่ใช้เป็นพลังงานสำหรับการขนส่งทางอากาศในเดือนมีนาคมและเมษายนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การปิดล็อกเมืองเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามไวรัสโควิด-19 กำลังเข้มข้น จึงสามารถสรุปได้ว่าตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้จะเปลี่ยนไปตามผลกระทบที่เกิดจากการปิดล็อกเมือง ตัวเลขปริมาณความต้องการน้ำมันดิบจะชัดเจนขึ้นเมื่อทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดเมืองมากยิ่งขึ้น

การคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของปริมาณความต้องการน้ำมันดิบ

เวลาที่ผ่านไปข้อมูลตัวเลขเหล่านี้มีแต่จะเปลี่ยนไปจากข้อมูลที่เข้ามาใหม่ๆ ในแต่ละวัน ทำให้ฟังดูไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อข้อมูลหรือการคาดการณ์อนาคตที่จะเกิดขึ้นในอีกเดือนสองเดือนข้างหน้าได้ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนจะต้องตระหนักว่าข้อมูลที่เปลี่ยนไปในทุกๆ วันจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจทั้งตอนนี้ ครึ่งปีหลัง หรือในปี 2021 เองก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนฉันจึงนำข้อมูลเฉพาะสถาบันหรือองค์กรที่เชื่อถือได้มาให้อ่านกัน

EIA ตอนนี้คาดการณ์ว่าในปี 2021 ความต้องการน้ำมันดิบจะเติบโตขึ้น 99.6 ล้านบาร์เรล แน่นอนว่านี่เป็นข้อมูลที่ EIA ไม่ได้ประเมินร่วมกับข้อมูลเช่นระยะเวลาการถดถอยทางเศรษฐกิจ ระยะเวลาในการฟื้นตัว ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อธุรกิจการบิน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

สถาบันการเงินโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์เอาไว้ว่าปริมาณความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2020 จะมีตัวเลขอยู่ที่ 94 ล้านบาร์เรลต่อวันแต่ในปี 2021 จะเพิ่มขึ้นเป็น 99 ล้านบาร์เรลต่อวัน โกลด์แมน แซคส์มองว่าความต้องการน้ำมันดิบจะสามารถกลับขึ้นมาในรูปแบบ V-Shape หรือกลับมาอย่างรวดเร็วได้ ส่วนของ Rystad Energy คิดเหมือนกันว่าเราจะได้เห็น V-Shape ของความต้องการน้ำมันดิบแต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะช้า

สำหรับนักลงทุนแล้วการฟื้นตัวแบบ V-Shape จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากกว่าคือขนาดและระยะเวลาของ V-Shape ต่างหาก เอาจริงๆ แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเห็นภาพของ V-Shape ได้อย่างชัดเจนเพราะเรายังไม่ได้เห็นหน้าตาของการถดถอยทางเศรษฐกิจเลยว่าจะมีรูปโฉมออกมาเช่นไร

โมเดลคำนวณปริมาณความต้องการเชื้อเพลิงไม่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหลังช่วงล็อกดาวน์?

ข้อมูลจากอดีตที่ใช้ในการสร้างโมเดลเพื่อคำนวณปริมาณความต้องการเชื้อเพลิงในอนาคตอาจจะไม่สามารถวัดอะไรได้หลังจากที่โลกผ่านช่วงล็อกดาวน์ไปแล้วเพราะจากนี้ไปรูปแบบการเดินทางของมนุษย์จะไม่เหมือนเดิมอีก ภูมิภาค เมือง หรือประเทศที่จบการล็อกดาวน์ก่อนคนอื่นอาจมีความเห็นและมาตรการที่เปลี่ยนแปลงไปจากพื้นที่ที่ยังล็อกดาวน์อยู่ โมเดลคำนวณเหล่านั้นไม่มีทางทราบผลกระทบทางจิตวิทยาที่เกิดขึ้นกับการเดินทาง การทำงานหรือการบริโภคของผู้คนที่เปลี่ยนไปได้ เราไม่รู้ว่าการถดถอยทางเศรษฐกิจจะทำร้ายธุรกิจขนาดเล็กได้มากแค่ไหนในยุคที่การกลับมาเปิดเมืองเต็มไปด้วยธุรกิจออนไลน์เต็มตัวและการทำงานผ่าน Zoom วิดีโอคอนเฟอเรนซ์กลายเป็นเรื่องปกติ

มีตัวแปรอีกมากมายที่จะทำให้การคาดการณ์ปริมาณความต้องการน้ำมันดิบคาดเคลื่อนในระยะยาว นักลงทุนที่ดีควรรับข้อมูลไว้ในระดับแค่ “พอรู้” เท่านั้นแต่ไม่ควรนำข้อมูลที่ได้มาก้าวก่ายการตัดสินใจลงทุนของตัวเอง

ดูกราฟราคาน้ำมันดิบ Brent สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์

https://th.investing.com/commodities/brent-oil

ดูกราฟราคาน้ำมัน WTI (NYSE:WTI)

https://th.investing.com/commodities/crude-oil

ดูกราฟกองทุนรวม Invesco DB Oil Fund (NYSE:DBO)

https://th.investing.com/etfs/powershares-db-oil-fund

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย