สต็อกน้ำมันกดดัน 1Q63 ขาดทุนหนัก
เราคาดผลประกอบการ (BK:PTTGC) 1Q63 จะขาดทุนสุทธิ 7.6 พันล้านบาท พลิกจากกำไร QoQ และ YoY สาเหตุหลัก มาจากขาดทุนสต็อกน้ำมันราว 8.1 พันล้านบาท หากหักรายการพิเศษ (ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน อนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยง ขาดทุนสต็อกน้ำมัน) คาดผลการดำเนินงานปกติทำได้ 1.5 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนใน 4Q62 ซึ่งเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงใหญ่ แต่เทียบกับ 1Q62 หดตัว -70% YoY ปัจจัยกดดันหลัก จากอัตรากำไรของธุรกิจอะโรมาติกส์ และโอเลฟินส์ที่ลดลงมาก โดยส่วนต่างราคา PX-Condensate เหลือ US$256/ตัน (ทรงตัว QoQ, -53% YoY) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI (NYSE:WTI) ในตลาดโลกที่ลดลง -66% จาก สงครามราคาน้ำมัน ทำให้ราคาโอเลฟินส์อย่าง HDPE เหลือ US$839/ตัน (ทรงตัว QoQ แต่ -23% YoY)
ปรับประมาณการสะท้อนงบ 1Q63
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q63 ถือว่าอ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า กดดันด้วยราคาน้ำมันดิบใน ตลาดโลกที่อ่อนแอกว่าคาด ส่งผลต่ออัตรากำไรธุรกิจโอเลฟินส์ และขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมาก เราปรับประมาณการกำไรปี 2563-2564 ลง 21-79% ภายใต้สมมติฐานหลัก
1) ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย US$40-42.5/bbl
2) ราคา HDPE เฉลี่ย US$880-883/ตัน
3) ค่าการกลั่น US$3.8-5.0/bbl ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท -81% YoY จากขาดทุนสต็อกน้ำมัน และอัตรา กำไรของโอเลฟิ นส์แต่จะพลิกกลับมาเติบโตแรง +545% ในปี 2564 เป็น 14.3 พันล้านบาท จากฐานต่ำ, ราคาน้ำมันฟื้นตัว, ไม่มีขาดทุนสต็อกน้ำมัน, และมีกำลังผลิตเพิ่ม 1.1 ล้านตัน/ปี จากโครงการ PO/Polyols และ ORP ซึ่งเริ่ม COD ช่วงปลาย 4Q63
ประเมินการฟื้นตัวปีนี้แบบค่อยเป็นค่อยไป...ตัวแปรหลักคือทิศทางราคาน้ำมัน
ในมุมมองของเรา ช่วงที่เหลือของปี 2563 คาดเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตัวแปรหลักคือ ทิศทางราคาน้ำมันดิบ ภายหลัง OPEC++ ปรับลดการผลิต ผสานกับอุปสงค์ที่กลับมาเป็นปกติภายหลังการยกเลิกมาตรการ Lockdown ช่วง 2H63 อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานหลักยังอยู่ระดับต่ำจาก
1) อัตราการกลั่น 2Q63 มีแนวโน้มลดลง QoQ
2) บริษัทไม่ได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมัน (Crude premium) เหมือนโรงกลั่นอื่น เพราะยังเน้นการผลิตน้ำมันกำมะถันต่ำ (LSFO) ทำให้ไม่ได้ใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง
3) ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับต่ำยังกดดันอัตรากำไรธุรกิจโอเลฟินส์ มองว่าผลบวกจาก Spread ที่สูงขึ้นไม่สามารถชดเชยราคาน้ำมันที่ลดลงได้ เพราะเป็นผู้ผลิต Gas-based
มูลค่าน่าสนใจ พื้นฐานมั่นคง...รอจังหวะเข้าลงทุนหลังรายงานงบ
ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ลงเป็น 48.00 บาท (เดิม 49.00 บาท) อ้างอิง PBV ที่ 0.77x ซึ่งให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยระยะยาว -2.5SD (เท่าเดิม) ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 0.6x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2.5SD ถือว่า Valuation ไม่แพง, ฐานะการเงินแข็งแกร่งด้วย D/E ต่ำ 0.5x, กำไรสะสมสูง ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้สม่ำเสมอ, การทบทวนแผนการลงทุนโดยเฉพาะ Petrocomplex ขนาดใหญ่ที่สหรัฐฯ ช่วย ลดความกังวลของตลาดได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการฟื้นตัวปีนี้จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เชิงกลยุทธ์จึงยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน คงคำแนะนำ TRADING เพื่อรอจังหวะเข้าสะสมหลังรายงานงบ 1Q63 วันที่ 8 พ.ค.
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities