🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

หนึ่งทศวรรษกับสินค้าโภคภัณฑ์: กาแฟอาราบิก้าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในสินค้าโภคภัณฑ์

เผยแพร่ 02/01/2563 15:04
KC
-
SB
-
OJ
-
CC
-
RC
-

ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจมากที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สามารถพาตัวเองขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของราคาในรอบ 13 ปีจนสามารถขึ้นอยู่ในจุดที่มีคนสนใจได้ภายในเวลาเพียงแค่ 7 เดือน แต่สินค้าโภคภัณฑ์ที่น่าประหลาดใจเป็นที่สุดคือกาแฟอาราบิก้าที่เมื่อจบปี 2019 แล้วกราฟราคาสามารถปิดตัวได้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของราคาในปี 2009 เพียงนิดเดียวเท่านั้น

นั่นหมายความว่าถ้าคุณได้ซื้อสัญญาล่วงหน้าของกาแฟอาราบิก้าในตลาดสินค้าล่วงหน้านิวยอร์ค (NYBOT) ที่ราคาประมาณ $1.36 ต่อ Ib (37,500 Ib ต่อสัญญา) คุณจะสามารถทำกำไรได้ $15,000 หรือน้อยกว่า 3% จากการลงทุนเป็นเงินจำนวน $510,000

กราฟกาแฟอาราบิก้ารายเดือน

ถ้ามองในแง่ของการลงทุนตลอดระยะเวลา 10 ปี กาแฟอาราบิก้าถือว่ายังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแต่ถ้าเกิดว่าคุณถือสัญญาของสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนี้ประมาณ 10 ลอตตั้งแต่ในช่วงสิ้นปี 2018 มันจะเป็นหนังคนละม้วนกันเลยทีเดียว คุณจะทำกำไรได้ประมาณ 30 เซนต์ต่อ Ib ซึ่งจะทำให้คุณสามารถได้เงินคืนจากการลงทุนเป็นจำนวนมากถึง $112,500

เมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์สามารถผลิตได้ (Soft commodities) อย่างเช่น โกโก้ น้ำตาล น้ำส้มในตลาดสินค้าล่วงหน้านิวยอร์ค (NYBOT) และกาแฟโรบัสต้าในตลาดสินค้าล่วงหน้าลอนดอน กาแฟอาราบิก้าในตลาดสินค้าล่วงหน้านิวยอร์ค (NYBOT) ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดแต่ลักษณะพฤติกรรมราคาของกราฟสัญญาล่วงหน้ากาแฟอาราบิก้าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาถือว่ายังไม่มีอะไรหวือหวามากนัก

ยิ่งเมื่อได้นำไปเปรียบเทียบกับกาแฟโรบัสต้าในตลาดสินค้าล่วงหน้าลอนดอนและเวียดนามจะพบว่าในรอบ 10 ปี กาแฟอาราบิก้าปรับตัวลดลงมาถึง 9% ในปี 2019 ในขณะที่กาแฟโรบัสต้าทำผลงานได้ดีกว่าถึง 6%

รางวัลสินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์สามารถผลิตได้ที่ทำผลงานได้ยอดแย่ที่สุดในปี 2019 และในรอบ 10 ปีตกเป็นของน้ำส้ม คิดเป็นการปรับตัวลดลงมามากถึง 24% ทั้งๆ ที่วัดในช่วงที่ดีที่สุดของการขายและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในตลาดของน้ำส้มแล้ว แต่เรื่องน้ำส้มไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะสิ่งที่เราต้องให้ความสนใจมากที่สุดในบทวามนี้คือพระเอกของเราอย่างกาแฟอาราบิก้าว่าอะไรเป็นสาเหตุให้สินค้าตัวนี้เป็นที่น่าสนใจ

ยุคทองของคาแฟอีน

ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมในปี 2011 กาแฟอาราบิก้าก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วด้วยการปรับตัวขึ้นมาสร้างจุดสูงสุดที่ระดับราคา $3.06 ต่อ Ib สาเหตุเป็นเพราะประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อย่างบราซิลสามารถผลิตกาแฟตัวนี้ออกมารองรับความนิยมในการบริโภคกาแฟได้อย่างดี ไม่เฉพาะในฝั่งอเมริกาเท่านั้นแต่ความนิยมในการบริโภคกาแฟในเอเชียก็เพิ่มมากขึ้นจนสามารถแซงผลิตภัณฑ์อย่างเช่นชาไปได้

ในตอนนั้นถือเป็นยุคทองของกาแฟอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟที่เสริฟตามคาเฟ่ทั่วไปหรือกาแฟสำเร็จรูปที่วางอยู่ตามห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างก็ได้รับความนิยม กาแฟหนึ่งแก้วสามารถเพิ่มมูลค่าของตัวเองจาก 5 เซนต์ขึ้นไปเป็น 20 เซนต์ได้เช่นเดียวกับกาแฟสำเร็จรูปแบรนด์ดังๆ หลายๆ แบรนด์ที่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ของราคาได้อย่างต่อเนื่อง มีเพียงผู้ประกอบการไม่กี่รายเท่านั้นที่บอกว่ายอดขายกาแฟนั้นลดลง ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านีว่าตอนนั้นถือเป็นยุคทองของการบริโภคกาแฟ

“ผมอยู่ในวงการกาแฟมาห้าปีแล้วและช่วงเวลานั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของกาแฟอย่างแท้จริง” คุณเดฟ มัฟฟัซซี่ บาริสต้าแห่งร้าน Peet’s Coffee and Tea ในเมืองเวลเลสลีย์ รัฐแมสซาชูเซตส์ กล่าว

แต่เป็นสัจธรรมของโลกที่ไม่มีอะไรคงอยู่ถาวร ความรุ่งเรืองของการบริโภคกาแฟก็เช่นกันเมื่อในเดือนเมษายนปีต่อมาประเทศบราซิลประสบปัญหาภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อการผลิตกาแฟทำให้ราคากาแฟอาราบิก้าในตลาดสินค้าล่วงหน้านิวยอร์ค (NYBOT) ลดลงเหลือ $2 ต่อ Ib คิดเป็นการปรับตัวลดลง 66% ก่อนที่จะลงไปยังระดับราคา 86.35 เซนต์ซึ่งเป็นจุดน้ำสุดของราคาในรอบ 13 ปี การร่วงลงอย่างรุนแรงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนลากยาวไปจนถึงเดือนสิงหาคมเลยทีเดียว

การกลับมาได้อย่างเหลือเชื่อ

หลังจากที่ทิ้งนักลงทุนให้จมอยู่กับความสิ้นหวังมาตั้งแต่เดือนเมษายน ในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั้นเองที่กาแฟอาราบิก้าเป็นพระเอกพาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์กลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง เฉพาะช่วงเวลาระหว่างเดือนกันยายนไปจนถึงธันวาคม กาแฟอาราบิก้าตัวเดียวสามารถปรับตัวขึ้นได้สูงขึ้น 36% นอกจากจะชดเชยการปรับตัวลดลงมาของราคาในช่วงต้นปีมาจนถึงกลางปีแล้ว นับตั้งแต่ปี 2014 การวิ่งครั้งนั้นถือเป็นการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดของกาแฟอาราบิก้าและวงการสินค้าโภคภัณฑ์ที่มนุษย์สามารถผลิตเองได้

การกลับมาของกาแฟอาราบิก้าหลังจากที่บราซิลเจอภัยธรรมชาติถล่มไปทำให้นักวิเคราะห์ในตอนนั้นคาดการณ์ว่าปริมาณกาแฟอาราบิก้าที่มีอยู่ตอนนั้นจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เมื่อของขาดตลาดและความต้องการยังมีอยู่ก็ยิ่งทำให้ราคากาแฟอาราบิก้าปรับตัวสูงขึ้นและความต้องการนั้นมากพอที่จะทำให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนี้ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของราคาได้ในรอบ 4 ปี รูปแบบการวิ่งของราคาแบบนี้เองที่ทำให้เรามองว่าภาพรวมของกาแฟอาราบิก้าอาจเป็นอย่างในอดีตได้ในช่วงต้นปี 2020

คุณโจรช เกรฟ พนักงานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การตลาดผู้ทำงานในตลาดสินค้าล่วงหน้าชิคาโก RJO ให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดังอย่างบลูมเบิร์กว่า “ตลาดปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรงมากเกินไป ในระยะสั้นๆ อาจเกิดความผันผวนของราคาที่รุนแรงได้” บลูมเบิร์กยังได้กล่าวสั้นๆ ทิ้งท้ายอีกว่า “นี่คือสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องจับตามองในปี 2020”

ความขาดแคลนของกาแฟอาราบิก้าในตลาดโลก

อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตกาแฟคงคลังที่บราซิลจะสามารถทำได้ในปี 2020 นี้จะลดลงไปถึงจุดต่ำสุดที่บราซิลเคยผลิตกาแฟได้ในปี 1962 ในขณะที่ธนาคารสากล Rabobank มองว่าตัวเลขอุปทานของกาแฟจะลดลงเหลือ 3.5 ล้านถุงในปี 2019-2020 และบริษัทซิตี้กรุ๊ปคาดว่าการผลิตกาแฟจะลดลงเหลือ 4.7 ล้านถุงในปี 2020-2021 เหลือ 1.3 ล้านถุงโดย 1 ถุงจะมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัมหรือ 132 ปอนด์

การผลิตกาแฟในบราซิล

นายคาร์ลอส อัลเบอร์โต เฟอร์นานเดส ซานตาน่า ผู้อำนวยการของศูนย์ Empresa Interagricola SA ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถาบันที่ทำงานเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่งกล่าวว่า สินค้าทางการเกษตรตามฤดูกาลจะก่อให้เกิดอุปทานใหม่ๆ อยู่เสมอและการลดอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราเงินเฟ้อในประเทศอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้มีการขยายพื้นที่ทางการเกษตรมากขึ้น

ผู้อำนวยการแห่ง RR Consultoria Rural นาย เรจิส ริคโค อัลเวสได้กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่าแม้จะยังไม่สามารถรู้ได้ว่าผลผลิตที่บราซิลจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในปีหน้าจะมีมากเท่าใดแต่ดูจากรายงานคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในปี 2020 แล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากเลยทีเดียว

ปริมาณความต้องการกาแฟในระดับโลก

“แม้ว่าปริมาณความต้องการกาแฟจะสามารถสร้างจุดสูงสุดของราคาได้ใหม่ในปีหน้า แต่ก็อาจจะต้องรอไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020 และราคาอาจปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับราคาที่ $1.60 ในปี 2021 ได้” คุณอาคคาช โดชิ ผู้อำนวยการแห่งบริษัทซิตี้กรุ๊ปสาขานิวยอร์คกล่าว

คุณเทรซี่ อัลเลน นักวางกลยุทธ์การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ด้านการเกษตรแห่งบริษัทเจพีมอร์แกนเชสกล่าวว่า “กราฟราคากาแฟอาจมีขึ้นๆ ลงๆ บ้างแต่ในช่วงกลางปีราคาอาจวิ่งไปที่ราคา $1.59 ได้”

คุณจิม วัตสัน นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสของธนาคาร Rabobank แห่งกรุงนิวยอร์คกล่าวว่า “ปริมาณความต้องการของกาแฟในตลาดยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีเพราะความนิยมดื่มกาแฟเย็นในตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มกาแฟสกัดเย็นที่ต้องใช้จำนวนเม็ดกาแฟมากเป็นพิเศษ ด้วยกรรมวิธีของกาแฟชนิดนี้ทำให้กาแฟที่ได้มีคาเฟอีนน้อยจึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบัน”

ผลกระทบต่อผู้บริโภค

คุณจิม วัตสันยังได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกาแฟอาราบิก้าอีกว่า “การปรับตัวขึ้นมาของราคาเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจะไม่กระทบต่อปริมาณความต้องการหรือกำไรของบริษัทผู้ผลิตกาแฟอื่นอย่างแน่นอนเพราะการขึ้นมาของราคานั้นเป็นเพียงแรงวิ่งชั่วครั้งชั่วคราว”

คุณปีเตอร์ สเลช นักวิเคราะห์แห่ง BTIG กล่าวว่า “ความต้องการกาแฟอาราบิก้าในตอนนี้ของตลาดยังไม่เป็นที่น่าสนใจมากนักซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีต่อผู้บริโภคที่อาจจะยังไม่เห็นราคาของกาแฟชนิดนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเร็วๆ นี้”

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย