What’s new?
- คาดกำไรปกติ 3Q62 ที่ 8.4 พันล้านบาท (+5% QoQ, +24% YoY) จาก ARPU ขาขึ้นต่อเนื่องตามการแข่งขันที่ทยอยลดความรุนแรงและค่าใช้จ่ายกับ TOT ที่ลดลง
- ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2562/63 ขึ้น 1.9% และ 9.6% เป็น 3.26 หมื่นล้านบาท (+9.9% YoY) และเป็น 3.6 หมื่นล้านบาท (+9.0% YoY) ตามลำดับ
Our view
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 260.00 บาทต่อหุ้น
- คาด ADVANC เป็นตัวเลือกหลักที่ได้ประโยชน์จากตลาดมือถือฟื้นตัวใน 2H62 ถึงกลางปี 2563
- ปี 2563 ได้แรงส่งต้นทุน TOT ลดลงเต็มปี
- คาดปันผลเฉลี่ยปี 2562/63 ที่ 4.1% จำกัด downside risk
คาดกำไรปกติ 3Q62 โตทั้ง QoQ และ YoY … ARPU ยังเป็นขาขึ้น
คาดกำไรสุทธิที่ 8.8 พันล้านบาท แต่หากตัดการบันทึกค่าเช่าเสา TOT ที่บันทึกย้อนหลังราว 400 ล้านบาท คาดกำไรปกติ 3Q62 ที่ 8.4 พันล้านบาท (+5% QoQ, +24% YoY) กำไรที่โต QoQ มาจากค่าเช่าเสา TOT ที่ลดลงตามสัญญาใหม่และการไม่มีค่าเช่าอุปกรณ์ในเดือนก.ย.หลังแจ้งตลาดตกลงซื้ออุปกรณ์กับ TOT วานนี้ กำไรที่โต YoY มาจาก ARPU ที่ฟื้นตัวหลังการถอน unlimited package สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 1) คาด mobile service revenue ex. IC +0% QoQ +3.8% YoY ฟื้นตัวต่อ แม้มีการแข่งขันในตลาด prepaid ซึ่งอาจกระทบ prepaid ARPU ในระยะสั้น แต่ package ถูกจำกัดเพียงบางพื้นที่ผ่านการจำกัดการโฆษณาและจำกัดการจัดจำหน่ายไม่กระทบวงกว้าง ขณะที่ผลบวกจากการถอน unlimited package ออกจากตลาด postpaid ซึ่งเป็น mass campaign มีมากกว่าทำให้ ARPU รวมยังเป็นขาขึ้น 2) คาดการอุดหนุนค่าเครื่องลดลงต่อสะท้อนภาวะการแข่งขันที่ลดลง 3) คาดค่าใช้จ่ายการตลาดยังสูงเพื่อโปรโมท brand ให้กลับมาเป็นผู้นำตลาด 4) ค่าเช่าเสากับ TOT ถูกลงราว 200 ล้านบาทต่อไตรมาส ขณะที่ 3Q62 อาจมีการบันทึกย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีเพิ่มอีกราว 400 ล้านบาท และ 5) การตกลงซื้ออุปกรณ์กลับจาก TOT มูลค่า 244 ล้านบาทวานนี้ ทำให้ไม่เกิดค่าเช่าอีกตั้งแต่เดือนก.ย. (ค่าเช่าปกติเดือนละ 167 ล้านบาท)
คงสมมติฐาน ARPU ขาขึ้นเพิ่งเริ่มต้น … ตลาดกลัวการแข่งขันเกินไป
ปริมาณการใช้งานของลูกค้า ADVANC เฉลี่ยอยู่ที่ 12GB ต่อเดือนต่อคน (+4.3% QoQ, +18.8% YoY) ตามการใช้งาน video และ streaming ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ARPU กลับไม่เติบโตเพราะการแข่งขันที่รุนแรง หากการแข่งขันทยอยลดลงจะส่งผลให้ปริมาณการใช้งานถูกเปลี่ยนมาเป็นรายได้ ส่งผลบวกสองเท่าเพราะฐานลูกค้าปัจจุบันติดการใช้งาน data ในระดับสูงไปแล้ว
ขณะที่โอกาสตลาดจะกลับมาแข่งขันรุนแรงยังต่ำจาก 1) unlimited package ใน 2H61 ส่งผลกระทบต่อทั้งอุตฯและไม่เกิดประโยชน์ต่อ DTAC ที่เป็นผู้เริ่มใช้ package ดังกล่าวเพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด 2) ผู้ประกอบการทุกรายยังลดการอุดหนุนค่าเครื่องซึ่งเป็นผลบวกมากกว่าการลดราคา package เพราะการอุดหนุนค่าเครื่องกระทบกำไรทันที ขณะทีการลดราคาจะเพิ่มปริมาณการใช้งานทำให้รายได้ไม่ลดลงมากนัก แต่กดดันให้ operators ต้องลงทุนโครงข่ายเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป 3) DTAC ซึ่งเป็นผู้นำในการลดราคาในช่วงก่อนหน้ามีโครงข่ายและโครงสร้างคลื่นที่แข็งแกร่งขึ้น ทำให้ความจำเป็นต้องแข่งขันด้านราคาลดลง และ 4) คาด TRUE มุ่งลดต้นทุนเพื่อทำกำไรแทนการแย่งส่วนแบ่งการตลาด เพราะ DTAC ที่มีส่วนแบ่งการตลาดน้อยกว่ามากยังทำกำไรได้ไตรมาสละ +/-1.5พันล้านบาท และ TRUE ถึงกำหนดต้องจ่าย vender financing 4G แล้ว กดดันต่อกระแสเงินสด เมื่อบวกกับมาตรฐานบัญชีใหม่ที่บังคับแยกกำไรธุรกิจมือถือทำให้ไม่สามารถแจกเครื่องได้สูงเหมือนอย่างอดีต
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 260.00 บาทต่อหุ้น
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2562/63 ขึ้น 1.9% และ 9.6% เป็น 3.26 หมื่นล้านบาท (+9.9% YoY) และเป็น 3.6 หมื่นล้านบาท (+9.0% YoY) ตามลำดับ หลักๆมาจากการปรับสมมติฐานค่าเช่าเสา TOT ที่ลดลงและการไม่ต้องเช่าอุปกรณ์จาก TOT อีก (ตารางที่1) เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 260.00 บาทต่อหุ้น (DCF WACC 7.4% T.G. 2%) ความเสี่ยงสำคัญอยู่ที่การประมูลคลื่น 5G ที่เร็วกว่าความจำเป็น เงื่อนไขการประมูลที่มีราคาสูงและการแข่งขันในตลาดกลับมารุนแรงอีกครั้ง
ADVANC แจ้งตลาดวานนี้ ตกลงทำสองธุรกรรม
- เข้าระงับข้อพิพาทกับ TOT สำหรับการใช้อุปกรณ์ในช่วง remedy period โดยตกลงชำระเงินรวมดอกเบี้ย 680 ล้านบาท โดย ADVANC เคยตั้งสำรองไว้แล้ว 559 ล้านบาท ทำให้มีผลกระทบต่อ 3Q62 ต้องตั้งสำรองเพิ่มราว 121 ล้านบาท
- ตกลงซื้ออุปกรณ์บางส่วนจาก TOT มูลค่า 244 ล้านบาท พร้อมจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ในเดือนก.ค.62 และเดือนส.ค.62 อีก 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 250 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะไม่มีการเช่าอุปกรณ์ที่เช่าอยู่แล้วเดือนละราว 167 ล้านบาท หรือปีละราว 2 พันล้านบาท ตั้งแต่เดือนก.ย.62 เป็นต้นไป
เราได้รวมทั้งสองประเด็นดังกล่าวไว้ในประมาณการใหม่ของเราแล้ว สาระสำคัญคือค่าใช้จ่ายสุทธิของ ADVANC ที่เกี่ยวข้องกับ TOT จะลดลงราว 2.8 พันล้านบาท (ส่วนแรกมาจากค่าเช่าเสาที่ลดลงซึ่งเป็นผลจากการตกลงก่อนหน้าปีละ 800 ล้านบาท ส่วนที่สองคือค่าเช่าอุปกรณ์ที่หายไปปีละ 2 พันล้านบาท)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities