💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

เฟด “ลด” ดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด

เผยแพร่ 19/09/2562 10:28

  • Fed Fund Target Range

Actual: 1.75-2.00% Previous: 2.00-2.25%

KTBGM: 1.75-2.00% Consensus: 1.75-2.00%

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ “ลด” อัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00%
  • FOMC มองเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่ง โดยชี้ว่าการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนก็เร่งตัวขึ้น ส่วนการปรับนโยบายการเงินในอนาคต จะอ้างอิงกับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มเศรษฐกิจ และเป้าหมายเงินเฟ้อ 2.0%
  • เราปรับเป้าหมาย FFTR สิ้นปีลงมาที่ 1.50-1.75% โดยที่การปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม
  • Next FOMC Decision: Oct 31 2019 (1AM)

คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ “ลด” อัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00%

  • มติไม่เป็นเอกฉันท์มีทั้งด้านสนับสนุนการ “ลด” อัตราดอกเบี้ย และกลุ่มที่เห็นว่าควร “คง” ดอกเบี้ย โดยมี Esther George และ Eric Rosengren เป็นผู้สนับสนุนให้คงดอกเบี้ยไว้ก่อนซึ่งสวนทางกับ James Bullard ที่มองว่าเฟดควรลดดอกเบี้ย 50bps ทันที
  • FOMC มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง โดยในครั้งนี้เฟดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯใหม่ คาดว่า GDP ปี 2019 จะขยายตัวได้ 2.2% การว่างงานจะอยู่ในระดับต่ำเพียง 3.7% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานในสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับใกล้เคียงเป้าหมายที่ 1.8-2.0% ในช่วง 3ปีข้างหน้า

เราปรับเป้าหมาย FFTR สิ้นปีลงมาที่ 1.50-1.75% โดยที่การปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม

  • เรามองว่า เฟดเป็น Market Dependent เต็มรูปแบบ เห็นได้ชัดจากการที่เฟดปรับคาดการณ์เศรษฐกิจขึ้นแต่ลดดอกเบี้ยลง ชี้ชัดว่าการตัดสินใจของเฟดมีเรื่องของความไม่แน่นอนในตลาดเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ดังนั้นถ้าตลาดการเงินหรือนโยบายเศรษฐกิจมีความปั่นป่วน การลดดอกเบี้ยก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ทันที
  • คาดว่าเฟดจะต้อง“ลด”ดอกเบี้ยอีกครั้งปีนี้ และคาดว่าจะลดดอกเบี้ยไปที่ระดับ 1.25-1.50% ในปีหน้า โดยในปัจจุบันด้วยภาวะ inverted yield curve และดอกเบี้ยระยะยาวที่ต่ำกว่า FFTR เราจึงเชื่อว่าเฟดควรต้องลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมา และคาดว่าระดับดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ควรเกินระดับ 1.50% ในช่วงปี 2019-2020
  • นโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายจะเป็นปัจจัยบวกกับตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก เรามองว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นสัญญาณว่าเฟดจะเข้ามาช่วยพยุงตลาดแน่นอน ถ้าสงครามการค้าวุ่นวาย หรือเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลง ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกสามารถใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายไปพร้อมกันได้ซึ่งเป็นผลดีกับตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก

Fed Dot Plot Sep 2019

FOMC Economic Projection

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย