เมื่อวันพฤหัสบดี Garrett Motion Inc. (แนสแด็ก:GTX) ประสบกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 8.5% หลังจากการประกาศกรอบการจัดสรรเงินทุนใหม่ ผู้ให้บริการเทคโนโลยียานยนต์ได้สรุปกลยุทธ์ในการคืน 75% ขึ้นไปของกระแสเงินสดอิสระที่ปรับปรุงแล้วให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการซื้อหุ้นคืนและเงินปันผลเป็นเงินสดรายไตรมาส
คณะกรรมการบริษัทได้กําหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่จะเริ่มในปี 2025 โดยมีแผนที่จะแจกจ่ายเงินปันผลประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ตลอดทั้งปี เงินปันผลรายไตรมาสแรกที่ 0.06 ดอลลาร์ต่อหุ้นมีกําหนดจ่ายในวันที่ 31 มกราคม 2025 ให้กับผู้ถือหุ้นที่บันทึกไว้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2025 นอกจากนี้ คณะกรรมการของ Garrett Motion ยังได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน โดยอนุญาตให้ซื้อหุ้นสามัญสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2025
Olivier Rabiller ประธานและซีอีโอของ Garrett แสดงความมั่นใจในความสามารถของบริษัทในการสร้างกระแสเงินสดอิสระที่แข็งแกร่งอย่างสม่ําเสมอ ซึ่งสนับสนุนทั้งการเริ่มต้นเงินปันผลและโครงการซื้อคืนใหม่ Rabiller เน้นย้ําถึงความทุ่มเทของบริษัทในการส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นในขณะที่ลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ในเทคโนโลยีที่นําไปสู่การเติบโตในสายผลิตภัณฑ์เทอร์โบและปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ของบริษัท
แผนการจัดสรรเงินทุนของ Garrett ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างต้นทุนที่ปรับเปลี่ยนได้และความสามารถในการสร้างเงินสดที่แข็งแกร่ง ลําดับความสําคัญในการจัดสรรเงินทุนของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในเทคโนโลยีที่แตกต่าง การคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น และการจัดการหนี้ ยังคงแน่วแน่ Garrett มีประวัติการซื้อหุ้นคืนครั้งสําคัญ โดยซื้อหุ้นคืน 438 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่การแปลงหุ้นบุริมสิทธิ Series A จนถึงไตรมาสที่สามของปี 2024
เป้าหมายของบริษัทในการคืนกระแสเงินสดอิสระส่วนใหญ่ให้กับผู้ถือหุ้นจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงสภาวะตลาด ราคาหุ้น และการใช้เงินทุนทางเลือกที่อาจเกิดขึ้น Garrett Motion ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าระยะเวลาและจํานวนเงินปันผลขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการและไม่มีการรับประกันผลตอบแทนที่แน่นอนให้กับผู้ถือหุ้น แผนการซื้อหุ้นคืนช่วยให้สามารถซื้อหุ้นคืนผ่านการซื้อในตลาดราคาเปิด การซื้อขายแบบบล็อก หรือธุรกรรมที่เจรจาต่อรองโดยส่วนตัว โดยปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง แผนนี้มีความยืดหยุ่น โดยไม่มีข้อกําหนดการซื้อขั้นต่ํา และอาจปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ตลอดเวลา
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน