ยอดขายในฤดูใบไม้ร่วงของ Inditex เพิ่มขึ้นช่วยกระตุ้นราคาหุ้น

Inditex บริษัทแม่ของ Zara และผู้ค้าปลีกแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นสําหรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ซึ่งนําไปสู่การเพิ่มขึ้น 5.4% ของราคาหุ้นในการซื้อขายช่วงต้นวันนี้ การเพิ่มขึ้นนี้มาจากการฟื้นตัวจากฤดูร้อนที่ไม่เอื้ออํานวยซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออํานวย

บริษัทเปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมถึง 8 กันยายน มียอดขายเพิ่มขึ้น 11% ในแง่ของสกุลเงินคงที่เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นี่เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญจากครึ่งแรกของปีที่การเติบโตของยอดขายชะลอตัวลงเหลือ 7.2% จาก 13.5% ในกรอบเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวในไตรมาสที่สามหลังจากผลการดําเนินงานของ Inditex ในเดือนมิถุนายน เนื่องจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นและหนาวเย็นในตลาดบ้านเกิดของ Inditex ในสเปน

ในทางตรงกันข้าม คู่แข่งอย่าง H&M ของสวีเดนและ Primark ผู้ค้าปลีกของอังกฤษประสบกับความท้าทายในช่วงฤดูร้อน โดย H&M คาดว่ายอดขายในเดือนมิถุนายนจะลดลง 6% ในปี Inditexear และ Primark รายงานว่ายอดขายในช่วงฤดูร้อนได้รับผลกระทบเนื่องจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นในสหราชอาณาจักร ณ วันที่ 5 กันยายน

ผลการดําเนินงานทางการเงินของ Inditex ในช่วงครึ่งแรกของปีนั้นแข็งแกร่ง โดยมีกําไรเพิ่มขึ้น 10% เป็น 2.8 พันล้านยูโร (3.09 พันล้านดอลลาร์) และยอดขายสูงถึง 18.1 พันล้านยูโรภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ตัวเลขเหล่านี้สอดคล้องกับความคาดหวังของตลาด เนื่องจากนักวิเคราะห์ที่สํารวจโดย LSEG คาดการณ์ว่าจะมีกําไร 2.77 พันล้านยูโรจากยอดขาย 18 พันล้านยูโร

CEO Oscar Garcia Maceiras แสดงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัท โดยเน้นย้ําถึงบทบาทสําคัญของการสนับสนุนการดําเนินงานจากร้านค้าจริงไปจนถึงความสําเร็จของการขายออนไลน์ TheInditexer ได้ลงทุนในด้านโลจิสติกส์และเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ โดยนําเสนอการจัดส่งแฟชั่นที่รวดเร็ว และรักษาราคาที่ต่ําสําหรับสินค้าในชีวิตประจําวัน

เมื่อมองไปข้างหน้า Indi สเปนวางแผนที่จะราคาเปิดศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่ในซาราสเปน ภายในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน 2025 นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมปรับปรุงร้านเรือธงบางแห่งในจีนและสเปน และขยายแบรนด์ Massimo Dutti ในสหรัฐอเมริกาและ Bershka ในอินเดีย

Maceiras ประกาศว่า Zara จะขยายบริการที่ใช้แอปมือสองไปยังสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคม โดยคาดว่าบริการจะเข้าถึงตลาดหลักทั้งหมดภายในปี 2025 บริการนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถขาย บริจาค หรือซ่อมแซมสินค้าได้ นอกจากนี้ Zara วางแผนที่จะดึงดูดลูกค้าด้วยการถ่ายทอดสดช้อปปิ้งในตลาด Inditexy หลังจากประสบความสําเร็จในประเทศจีน

บริษัทยังรายงานอัตรากําไรขั้นต้นที่น่าประทับใจที่ 58.3% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า 19 เปอร์เซ็นต์

นักวิเคราะห์และนักลงทุนทราบว่า Inditex อาจสเปนได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานใน Inditex เปรียบเทียบกับคู่แข่งเนื่องจากครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มีแหล่งที่มาใกล้กับสเปนมากขึ้น ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอจาก Trea Asset Management ซึ่งถือหุ้น InditeInditexs ให้ความเห็นเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของบริษัทต่อผลกระทบจากสภาพอากาศตามฤดูกาลและศักยภาพในการเติบโตในตลาดสหรัฐฯ

ในสหรัฐอเมริกา IndiInditex ระมัดระวังกับการขึ้นราคา โดยขึ้นราคาช้ากว่าในอดีตและในอัตราที่ต่ํากว่า H&M โดยราคากางเกงยีนส์ของ Zara เพิ่มขึ้นเพียง 2% เมื่อเทียบเป็นรายปีเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 8% ที่ H&M

ผู้จัดการกองทุน Vera Diehl จาก Union Investment มองว่า Inditex เป็นผู้ค้าปลีกแฟชั่นชั้นนําทั้งในร้านค้าจริง Inditexnline โดยมีช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่าง H&M และ Shein คู่แข่งชาวจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

Inditex ยักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง Zara ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความกล้าหาญเชิงกลยุทธ์ในโลกแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Inditex บริษัทสนุกสนานกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นสําหรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว มีตัวชี้วัดทางการเงินหลายอย่างและเคล็ดลับ InvestingPro ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับตําแหน่งทางการตลาดและศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน

เคล็ดลับ InvestingPro ที่โดดเด่นคือประวัติที่น่ายกย่องของ Inditex ในการเพิ่มเงินปันผลสําหรับ 4 ต่อเนื่อง Inditex ซึ่งส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังรักษาการจ่ายเงินปันผลไว้เป็นเวลา 23 ปีที่น่าประทับใจ โดยเน้นย้ําถึงความมั่นคงทางการเงินและผลการดําเนินงานที่สม่ําเสมอเมื่อเวลาผ่านไป

จากมุมมองของข้อมูลทางการเงิน Inditex มีการเติบโตของรายได้ 40.46% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความสามารถในการขยายและยึดส่วนแบ่งการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ อัตรากําไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 30.98% ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพการดําเนินงานและความสําเร็จของกลยุทธ์การกําหนดราคา นอกจากนี้ กระแสเงินสดของ Inditex ยังสามารถครอบคลุมดอกเบี้ย pInditex ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับการจัดการหนี้ของบริษัท

เป็นที่น่าสังเกตว่า Inditex ซื้อขายที่อัตราส่วน P/E ที่สูงเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้ในระยะสั้นและราคา/บัญชีที่สูงทวีคูณ แม้ว่าสิ่งนี้อาจบ่งบอกถึงการประเมินมูลค่าระดับพรีเมียม แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในโอกาสในอนาคตของบริษัทและตําแหน่งในฐานะผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมธุรกิจค้าปลีกขายสินค้าเฉพาะอย่าง

สําหรับผู้อ่านที่สนใจข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม มีเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติม 10 ข้อบนแพลตฟอร์ม ของ InvestingPro ซึ่งสามารถเข้าถึงได้สําหรับ Inditex ที่ https://www.investing.com/pro/ITX เคล็ดลับเหล่านี้ให้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของบริษัท โดยให้ข้อมูลที่มีค่าสําหรับนักลงทุนที่มีศักยภาพ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน