Bernstein ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยย้ําการจัดอันดับ Outperform ของ ITM Power Plc ในขณะที่ลดราคาเป้าหมาย (วิธีซื้อขายแบบแจ้งรายการเข้าสู่ระบบ) เล็กน้อยจากประมาณการก่อนหน้านี้เป็น 90p การปรับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้นเกี่ยวกับรายได้และการรับคําสั่งซื้อ แต่บางส่วนถูกชดเชยด้วยวินัยรายจ่ายฝ่ายลงทุนและการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นของบริษัท
การประเมินมูลค่าของ Bernstein รวมโมเดลกระแสเงินสดลดราคา (DCF) ที่แก้ไขแล้ว ซึ่งรวมถึงผลประกอบการประจําปีการเงิน 2024 (FY24) ของ ITM Power และคําแนะนําล่าสุดที่บริษัทให้ไว้
ITM Power ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเทคโนโลยีอิเล็กโทรไลเซอร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในโมเมนตัมของสัญญา โดยได้รับคําสั่งซื้อมากกว่า 47 ล้านปอนด์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งรวมถึงสัญญา REFHYNE II มูลค่า 100MW ที่สําคัญกับ Shell ในเดือนนี้ ภาระผูกพันด้านการปฏิบัติงานของบริษัท ณ เดือนเมษายนอยู่ที่ประมาณ 80 ล้านปอนด์ ซึ่งแปลเป็นงานที่กําลังดําเนินการประมาณ 284MW
นอกจากนี้ ITM Power ยังได้ทําข้อตกลงสํารองกําลังการผลิต 500MW กับลูกค้าอุตสาหกรรมทั่วโลก และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซัพพลายเออร์ที่ต้องการโดย Hygen กลุ่มสินค้าพลังงานในเดือนมิถุนายน
แม้จะมีคําสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง แต่ Bernstein ตั้งข้อสังเกตว่ารายได้สูงสุดของ ITM Power ซึ่งคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 18 ล้านปอนด์ถึง 22 ล้านปอนด์ในปีงบประมาณ 2025 ไม่ได้สะท้อนถึงการเติบโตพื้นฐานอย่างเต็มที่เนื่องจากช่วงเวลาของการรับรู้รายได้
EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทคาดว่าจะขาดทุนประมาณ 35 ล้านปอนด์ถึง 40 ล้านปอนด์สําหรับปีงบประมาณ 2025
ฝ่ายบริหารคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนด้วยการผลิตตรีศูล/สลิปเทียบเท่า 400MW ซึ่งโรงงานในเชฟฟิลด์สามารถรองรับได้
พื้นฐาน cEBITDAenario ของ Bernstein คาดการณ์ว่า ITM Power จะบรรลุอัตรากําไร EBITDA ที่เป็นบวกภายในปีงบประมาณ 2028 แบบจําลองการประเมินมูลค่าของบริษัทใช้วิธีการ DCF สองขั้นตอน โดยสมมติว่าอัตราการเติบโตในระยะยาวอยู่ที่ 5.0% และต้นทุนเงินทุนถ่วงน้ําหนักเฉลี่ย (WACC) ที่ 13.6%
ระบบการให้คะแนนของบริษัทวิจัยเปรียบเทียบผลการดําเนินงานที่คาดหวังของหุ้นในอีก 6-12 เดือนข้างหน้ากับเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ ขึ้นอยู่กับตลาดที่หุ้นจดทะเบียน ความร่วมมือที่แข็งแกร่งของ ITM Power กับ Linde Engineering โดยมุ่งเน้นไปที่วินัยด้านเงินทุน การควบคุมต้นทุน และการควบคุมเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมีส่วนทําให้คะแนน Outperform
สถานะเงินสดสุทธิของบริษัท ณ สิ้นเดือนเมษายนครอบคลุมมากกว่า 70% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ซึ่งเป็นรากฐานทางการเงินที่มั่นคง
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน