รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: นักลงทุนผวา เทขายสินทรัพย์เสี่ยง

เผยแพร่ 19/08/2564 02:58
© Reuters.

โดย Dhirendra Tripathi

 

Investing.com -- หุ้นในตลาดสหรัฐโดนเทขาย หลังจากรายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางเมื่อวันพุธ ซึ่งเปิดเผยว่าธนาคารกลางจะเริ่มลดโครงการซื้อพันธบัตรในปลายปีนี้

มีรายงานจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายแห่ง เผยผลประกอบการสำหรับไตรมาสล่าสุด ซึ่งเหนือความคาดหมายในบางบริษัท แม้จะยากที่จะเปรียบเทียบกับปีที่แล้วก็ตาม

การตัดสินใจของธนาคารกลางส่วนใหญ่มาจากการประเมินสภาพของตลาดแรงงาน โดยมีความเห็นว่า “คณะกรรมการลงความเห็นว่าเป้าหมายของตัวเลขการจ้างงานที่ควรจะเป็นยังอยู่ห่างออกไปจากเป้าหมายที่กำหนด” ตามรายงานของเฟด

ในสัปดาห์หน้า สมาชิกของธนาคารกลางจะรวมตัวกันที่เมือง Jackson Hole รัฐไวโอ เพื่อจัดการประชุมประจำปี โดยประธานเจอโรม พาวเวลล์ คาดว่าจะเพิ่มรายละเอียดบางอย่างให้กับแผนการลดสินทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา

ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงหลังจากข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงมากเกินคาด แต่คลังน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า คลังน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.234 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.055 ล้านบาร์เรล

รายได้ค้าปลีกเพิ่มเติมจะครบกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี พร้อมกับข้อมูลการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ทั่วไปจากสัปดาห์ก่อนหน้า

 ต่อไปนี้คือ 3 สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาในวันนี้:

1. รายได้จากห้างสรรพสินค้า

Kohls Corp (NYSE:KSS) คาดว่าจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ $1.17 จากรายรับ 3.98 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Macy's Inc (NYSE:M) มีรายรับจาก 4.97 พันล้านดอลลาร์และกำไรต่อหุ้น 18 เซนต์ ห้างสรรพสินค้าฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ถูกบังคับให้ปิดตัวลงเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากคำสั่งจากสาธารณสุข นักวิเคราะห์จะคอยจับตาว่าผู้บริหารจะพูดอะไรเกี่ยวกับฤดูกาลซื้อของในช่วงเปิดเทอม

2. รายได้จากสินค้าฟุ่มเฟือย

Tapestry (NYSE:TPR) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Coach , Kate Spade และ Stuart Weitzman มีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 68 เซนต์ จากรายรับ 1.55 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ ตามที่นักวิเคราะห์ที่รวบรวมข้อมูลโดย Investing.com ผู้ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยได้รับประโยชน์จากการย้อนกลับสู่แนวโน้มการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ แม้ว่าอาจไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมากขึ้นชะลอการตัดสินใจนี้

3. รายได้จากธุรกิจโกดัง

BJs Wholesale Club Holdings Inc (NYSE:BJ) ซึ่งเป็นสโมสรโกดังสินค้ายอดนิยม คาดว่าจะมีรายได้ในไตรมาสที่สอง 3.79 พันล้านดอลลาร์และกำไรต่อหุ้น 63 เซนต์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย