โดย Christiana Sciaudone
Investing.com - บรรดาเทรดเดอร์ต่างเพิกเฉยกับข้อมูลเงินเฟ้อที่อยู่เหนือความคาดหมาย ซึ่งช่วยผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้น
มันเป็นข้อมูลที่ทุกคนจับตามองในสัปดาห์นี้ กระทรวงแรงงานกล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเดือนที่แล้วหลังจากที่ขยับขึ้น 0.9% ในเดือนเมษายน ราคาผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมทำให้ตัวเลข CPI เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปีเป็น 5% จาก 4.2% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 นักลงทุนเชื่อคำพูดของเฟดที่ว่า มันจะคงอยู่ในระดับนี้เพียงชั่วคราว
New York Times รายงายว่า Starbucks (NASDAQ:SBUX) ดูเหมือนจะขาดแคลนวัตถุดิบ เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมจำนวนมากที่มีอยู่ (ต้องถามเฟดว่า แน่ใจหรือไม่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นชั่วคราว)
GameStop (NYSE:GME) ยังคงมีคุณลักษณะแบบหุ้นมีม โดยลดลง 25% หลังจากประกาศว่า จะขายหุ้นอีกหลายล้านหุ้น อันเป็นการหาผลประโยชน์จากนักลงทุนรายย่อยอย่างเต็มที่
ต่อไปนี้ คือ 3 ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:
1. การประชุม
ผู้นำจากกลุ่มประเทศ G7 เริ่มการประชุมในเมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กำลังจะเดินทางไปอังกฤษเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งฯ คาดว่าเขาและผู้นำประเทศต่าง ๆ จะหารือเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด
2. ความเชื่อมั่น
หลังจากประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ดูจะน่าสนใจน้อยลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก University of Michigan ประจำเดือนมิถุนายน คาดว่าจะอยู่ที่ 84.2 จุด เพิ่มขึ้นจาก 82.9 ในช่วงก่อนหน้า โดยจะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น. ET (14:00 GMT)
3. สถิติในรอบสัปดาห์
ตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะปิดท้ายสัปดาห์นี้ในระดับสูงสุดอีกครั้ง นักลงทุนต่างเพิกเฉยสัญญาณเงินเฟ้อล่าสุด ซึ่งอาจทำให้ ดัชนี S&P 500 ทำสถิติใหม่ และดัชนีแนสแด็กก็อยู่ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน