ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ ท่ามกลางซื้อขายผันผวน

เผยแพร่ 05/09/2567 07:56
© Reuters.  ดาวโจนส์พลิกร่วงแดนลบ ท่ามกลางซื้อขายผันผวน

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน

ณ เวลา 00.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 40,881.14 จุด ลบ 55.79 จุด หรือ 0.14%

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก หลังจากที่นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา ระบุว่า เขาพร้อมที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

ท่าทีของนายบอสติกสอดคล้องกับนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งกล่าวในเดือนก.ค.ว่า เฟดจะไม่รอจนกว่าเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมาย 2% ก่อนที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นายบอสติกถือเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายเหยี่ยว ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี นายบอสติกระบุในวันนี้ว่า เขาได้ปรับจุดสนใจของเขาไปสู่ภารกิจอีกด้านหนึ่งของเฟดในการรักษาการจ้างงาน เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงาน

"ผมเชื่อว่าเราไม่สามารถรอจนกระทั่งเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับ 2% ก่อนที่เราจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะงักงันในตลาดแรงงาน ซึ่งจะสร้างปัญหาและความยากลำบากโดยไม่จำเป็น" นายบอสติกระบุในข้อความที่มีการโพสต์บนเว็บไซต์ของเฟดสาขาแอตแลนตา

อย่างไรก็ดี นายบอสติกไม่ได้เปิดเผยว่าเขาคิดว่าเฟดควรจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดและเท่าใด

ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 600 จุดวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 47.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 38.0% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.0% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 62.0% เมื่อวานนี้

ทั้งนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 47.2 ในเดือนส.ค. จากระดับ 46.8 ในเดือนก.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.5

ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ได้รับผลกระทบจากภาวะหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

นักลงทุนจับตารายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานซึ่งจะมีการเปิดเผยก่อนการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเป็นการประเมินภาวะเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งประจำอยู่ใน 12 เขตของสหรัฐ

นอกจากนี้ Beige Book เป็นรายงานที่มีการรวบรวมข้อมูลจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ทำให้ Beige Book สามารถสะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้าง

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย