สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในวันนี้หลังจากวันหยุดยาวช่วงอีสเตอร์ สูงขึ้นมา 20% จากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคมท่ามกลางสัญญาณแง่บวกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในหลายประเทศและการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.3% นำโดยบริษัทจัดหาทรัพยากรทางเคมี AstraZeneca Plc ที่ทะยานขึ้น 5.3%
นักลงทุนกลับมาจากช่วงวันหยุดยาวเพื่อรับข่าวดีจากตัวเลขการส่งออกจีนที่หดตัวลงต่ำกว่าที่คาดไว้ อีกทั้งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จากนิวยอร์กและสเปนก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ฤดูกาลรายงานผลประกอบการของยุโรปได้เริ่มต้นในสัปดาห์นี้ และตลาดจะจับตาความเปลี่ยนแปลงในการจ่ายเงินปันผล การซื้อคืน และการปรับลดตัวเลขคาดการณ์กำไรของบริษัทต่าง ๆ รวมทั้งผลการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐในการปรับลดอัตราการทำ Repo หลังจากความตึงตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว
Ulrich Urbahn หัวหน้านักวางแผนกลยุทธ์และการวิจัยสินทรัพย์ที่ Joh Berenberg Gossler & Co. ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของจีนที่ออกมาดีเกินคาดและแถลงการณ์ล่าสุดของเฟดได้หนุนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน" และ "นักลงทุนจำนวนมากกลัวที่จะพลาดขบวนรถ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอยู่มาก ดังนั้นพวกเราจึงควรที่จะทยอยเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงทีละน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างมากในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา”