สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเตรียมเปิดตลาดในแดนบวก ในการซื้อขายวันนี้ตามดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในไทย หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเดียว ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
แม้ตลาดหุ้นจะปิดบวกไปได้ แต่นักลงทุนยังมองหาความอุ่นใจจากเงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาล หลังรายงานชี้ว่าชาวอเมริกันจำนวน 6.6 ล้านคนได้ยื่นคำร้องขอรับสวัสดิการว่างงาน เพราะถูกล็อคดาวน์เนื่องจากการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่กระทบเศรษฐกิจอย่างสาหัส
ดัชนีฟิวเจอร์สของนิกเกอิ {{8859|สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nikkei 225}}ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยเหนือระดับปิดของดัชนีเมื่อวันพฤหัสบดีและดัชนีของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 1.5% ในการซื้อขายช่วงแรก ส่วนดัชนีฟิวเจอร์สฮ่องกงติดลบ
ดัชนี E-Mini ฟิวเจอร์สของ S&P 500 ลดลง 0.04% ดีชนีชี้วัดหลักทรัพย์ของทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น 1.24% ในชั่วข้ามคืน หลังจากดัชนีในยุโรปปรับขึ้นเล็กน้อยไปก่อนหน้านี้
ส่วนดัชนี Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 2.2% S&P 500 ปรับขึ้น 2.3% และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.7%
หุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาคาดว่ารัสเซียและซาอุดิอาระเบียจะประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันถึง 10 ล้านเหลือ 15 ล้านบาร์เรลเนื่องจากทั้งสองประเทศส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะทำข้อตกลงขณะที่มีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียจะเรียกประชุมฉุกเฉินของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปค