Investing.com - หุ้นในตลาดฮ่องกงของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในวันนี้ หลังจากรายงานการส่งมอบที่แข็งแกร่งในเดือนเมษายน โดย Nio Inc (NYSE:NIO) พุ่งขึ้นมากที่ด้วยการส่งมอบที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากปีที่แล้ว
หุ้นฮ่องกงของ Nio Inc (HK:9866) มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในบรรดาหุ้นอื่น ๆ โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 23% เป็น 43.80 ดอลลาร์ฮ่องกง
ผู้ผลิต EV กล่าวว่าได้ส่งมอบรถ EV กว่า 15,620 คันในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นเกือบ 135% จากเดือนเมษายน 2023 และเพิ่มขึ้นกว่า 30% จาก 11,866 คันในเดือนมีนาคม 2024
หลังจาก Nio ต่อมาก็คือ Xpeng Inc (NYSE:XPEV) ที่ถือเป็นหุ้นที่ทำผลงานดีที่สุดในบรรดาหุ้น EV ของจีนในวันนั้น หุ้นฮ่องกงของ Xpeng (HK:9868) เพิ่มขึ้น 8.7% เป็น 34.25 ดอลลาร์ฮ่องกง หลังจากส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ 9,393 คันในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนหน้า
ผู้ผลิต EV ในท้องถิ่นรายอื่น ๆ ก็มียอดส่งมอบที่แข็งแกร่งในเดือนเมษายนเช่นกัน เนื่องจากสงครามการลดราคาที่เกิดจาก Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ดุเดือดขึ้น
หุ้นฮ่องกงของ BYD (SZ:002594) (HK:1211) เพิ่มขึ้น 4.5% หลังจากที่บริษัทระบุว่าขายรถยนต์ได้ 313,245 คันในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากปีก่อนหน้า การส่งมอบในต่างประเทศก็ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน เนื่องจากบริษัทได้รุกเข้าสู่ตลาดอินเดียและยุโรปมากขึ้น
BYD แซงหน้า Tesla ในฐานะผู้ผลิต EV ที่ขายดีที่สุดในโลกในไตรมาสเดือนธันวาคม ทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มีการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาดจีน ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับผู้ผลิต EV แต่ถึงแม้ว่า BYD จะขายได้มากกว่า Tesla ในประเทศจีน แต่ผู้ผลิต EV ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกก็กลับมาครองตำแหน่งสูงสุดในแง่ของยอดขายทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2024
หุ้น EV ที่จดทะเบียนในฮ่องกงอื่น ๆ ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันในวันนี้ ท่ามกลางตัวเลขยอดขายที่เป็นบวกในเดือนเมษายน Li Auto Inc (HK:2015) (NASDAQ:LI) เพิ่มขึ้น 2.9% ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Xiaomi (OTC:XIACF) Corp (HK:1810) ซึ่งเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจใน SU7 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเพิ่มขึ้น 1.7%
กำไรของหุ้น EV ส่งผลให้ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 2% แซงหน้าดัชนีอื่น ๆ ในภูมิภาค
แม้ว่ายอดขาย EV ทั่วโลกจะมีแนวโน้มลดลงในปีที่ผ่านมา แต่จีนยังคงเป็นแสงสว่างจากความต้องการของผู้บริโภคที่ต่อเนื่องและการอุดหนุนจากรัฐบาล แนวโน้มดังกล่าวจุดประกายการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างบริษัทในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติตีตลาดได้อย่างจำกัด
การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในจีนส่งผลให้ Tesla มีการส่งมอบในไตรมาสแรกลดลงถึง 8.5% ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบเกือบสี่ปี