💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวก เก็งแบงก์ชาติจีนหั่นดอกเบี้ยนโยบาย

เผยแพร่ 12/01/2567 18:54
© Reuters.  ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวก เก็งแบงก์ชาติจีนหั่นดอกเบี้ยนโยบาย

InfoQuest - ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงดีดตัวขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืด นอกจากนี้ บรรยากาศโดยรวมในตลาดเอเชียยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,307.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.06 จุด หรือ +0.03%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,886.87 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.01% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,422.95 จุด พุ่งขึ้น 373.09 จุด หรือ +1.06%

ส่วนราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่าสหรัฐเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง

นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนลง 0.10% สู่ระดับ 2.40% จากระดับ 2.50% ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (15 ม.ค.) และคาดว่าธนาคารกลางจีนอาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงินด้วย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันนี้ สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของจีนเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจเพิ่มขึ้นเพียง 1.7%

ขณะที่ยอดการนำเข้าในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.3%

ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวลง 0.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 2.7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15

ทางการจีนมีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจตลอดปี 2566 ของจีน ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า ตัวเลข GDP จีนจะยังคงออกมาสอดคล้องกับเป้าหมายรายปีที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ระดับ 5%

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย