Investing.com -- หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงเมื่อวันพุธ เนื่องจากตลาดพากันย่อตัวลงก่อนรายงานข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภคที่สำคัญของสหรัฐฯ จะเปิดเผย โดยตลาดหุ้นจีนดิ่งลงเป็นรอบที่สองติดต่อกันหลังจากตัวเลขการซื้อขายที่น่าผิดหวัง
ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต และ CSI 300 ของจีนร่วงลง 1.2% และ 0.8% ตามลำดับ ร่วงลงตามตัวเลข การนำเข้า ที่อ่อนแอกว่าที่คาด เสริมความกลัวให้เพิ่มขึ้นว่าแรงฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศกำลังหมดแรง
ตัวเลขการส่งออก ของจีนก็เติบโตในอัตราที่ช้าลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อภาคการผลิตขนาดใหญ่ของประเทศ ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจำนวนมากทำให้เทรดเดอร์ตั้งคำถามถึงขอบเขตของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ หลังจากฟื้นตัวหลังการยกเลิกมาตรการโควิด
ความสูญเสียในจีนได้ส่งผลต่อตลาดที่มีความเสี่ยงทางการค้าสูง โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.6% ขณะที่ดัชนี Taiwan Weighted และ KOSPI ของเกาหลีใต้ ขาดทุน 0.8% และ 0.1% ตามลำดับ
ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียก็ร่วงลง 0.3% จากแนวคิดนี้เช่นกัน เนื่องจากการขาดทุนในหุ้นบริษัทขุดเหมือง
ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.4% จากระดับสูงสุดเกือบเก้าเดือน เนื่องจากเทรดเดอร์ใช้ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงล็อกผลกำไรที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ผลประกอบการที่แข็งแกร่งขององค์กรและความคาดหวังต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้กระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นในดัชนีนิคเคอิในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้ตลาดนี้เป็นหนึ่งในตลาดเอเชียที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในเดือนเมษายน
ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในระยะเวลาอันใกล้นี้ จึงคาดว่าดัชนีนิคเคอิจะปรับตัวขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ตลาดเอเชียในวงกว้างลดลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดี เนื่องจากนักลงทุนได้ระมัดระวังก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภค จะเปิดเผยในวันนี้
คาดว่าตัวเลขจะแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลงอีกในเดือนเมษายน แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐที่ 2% ซึ่งอาจกระตุ้นเฟดให้ใช้มาตรการการเงินที่ดุเดือดมากขึ้น
ในขณะที่มีการคาดว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะขึ้นสูงสุดในปีนี้ แต่ตลาดได้ลดความคาดหวังของพวกเขาสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งหมายความว่าต้นทุนการกู้ยืมของสหรัฐฯ จะยังคงสูงขึ้นไปอีกนาน
สิ่งนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเสี่ยง และจะทำให้การทำกำไรของหุ้นเอเชียมีจำกัดหลังจากที่ไม่ได้มีผลงานที่ดีนักในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา
การหารือเกี่ยวกับวงเงินเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังทำให้ความเชื่อมั่นลดลง โดยยังไม่มีความคืบหน้าในการป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 1 มิถุนายน