โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – ดาวโจนส์ปิดตลาดต่ำลงในคืนวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Treasury Yield) จะลดลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการเดิมพันว่าธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินนโยบายแข็งกร้าวน้อยลง และความวุ่นวายต่อเนื่องในภาคการธนาคาร แม้ว่าจะมีการเข้าช่วยเหลือ SVB ก็ตาม
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.3% หรือ 90 จุด Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.5% S&P 500 ลดลง 0.1%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง โดยพันธบัตรอายุ 2 ปีร่วงลงมากกว่า 60 จุดพื้นฐาน ลดลงต่ำกว่า 4% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าความวุ่นวายในภาคการธนาคารอาจบีบให้เฟดต้องทบทวนเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใหม่
“กองทุนฟิวเจอร์สของเฟดกำลังลดความน่าจะเป็นของขนาดของการปรับขึ้นที่อาจเกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับ 25bps มากกว่า” Scotia Economics กล่าวในบันทึกย่อ ก่อนที่ความวุ่นวายในภาคการธนาคารจะเริ่มคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ที่แล้วตลาดได้คาดว่าจะอยู่ที่ 50bps Scotia Economics กล่าวเสริม
Goldman Sachs ในขณะเดียวกัน เชื่อว่าเฟดไม่น่าจะปรับขึ้นเลยในเดือนมีนาคม โดยอ้างถึงความเครียดในระบบธนาคาร เครื่องมือจับตาการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด(Fed Rate Monitor Tool) ของ Investing.com กล่าวว่าโอกาสที่เฟดจะหยุดขึ้นชั่วคราวในการประชุมสัปดาห์หน้าเพิ่มขึ้นเป็น 47%
หลังจากการล้มของ Silicon Valley Bank และ Signature Bank (NASDAQ:SBNY) รัฐบาลสหรัฐฯ และ ธนาคารสหรัฐฯ ได้ก้าวเข้ามาช่วยเหลือธนาคารที่ประสบปัญหา โดยตกลงที่จะช่วยเหลือผู้ฝากเงินทั้งหมด
นอกจากนี้ เฟดยังเปิดตัวโครงการระดมทุนใหม่ที่เสนอสินเชื่อที่มีระยะเวลาครบกำหนดไม่เกินปี
การสนับสนุนจากเฟดล้มเหลวในการยับยั้งความวุ่นวายในภาคธนาคาร อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ First Republic Bank (NYSE:FRC) ร่วงลงมากกว่า 60% หุ้นของธนาคารรายใหญ่รวมถึง JPMorgan Chase & Co (NYSE:{ {267|JPM}}), BAC และ Citigroup (NYSE:C) (NYSE:C) ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยให้ตลาดฟื้นตัวในวงกว้างโดยได้แรงหนุนจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
Microsoft (NASDAQ:MSFT) เพิ่มขึ้น 2%, Apple (NASDAQ:AAPL) เพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ตามด้วย Meta Platforms (NASDAQ:META) และ Alphabet ของ Google (NASDAQ:GOOGL)
ในข่าวอื่น ๆ Roku (NASDAQ:ROKU) ปิดตัวต่ำลง หลังจากบริษัทเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่ามีเงินสำรองประมาณ 487 ล้านดอลลาร์หรือ 26% ของเงินสดสำรองอยู่ที่ธนาคาร Silicon Valley
Seagen (NASDAQ:SGEN) เพิ่มขึ้นกว่า 14% จากข่าวที่ว่า Pfizer (NYSE:PFE) บริษัทด้านการดูแลสุขภาพจะเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายภาคส่วนการรักษาโรคมะเร็งมาไว้ในบริษัท