Investing.com - ภาพรวมของตลาดพลังงานและโลหะมีค่าในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
ภาพรวมตลาดพลังงาน
ทั้ง และ ต่างก็ปิดสัปดาห์ที่แล้วด้วยขาขึ้นราว 6% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดของสัญญาเบรนท์นับตั้งแต่เดือนธันวาคม และเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดของสัญญา WTI นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ระบุถึงแผนการที่จะส่งกองกำลังทหาร รวมทั้งกองกำลังทางอากาศไปยังซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อเป็นการป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ Aramco ได้ออกมาให้คำมั่นเมื่อวันศุกร์ว่า บริษัทจะกู้คืนกำลังการผลิตน้ำมันในอัตรา 11 ล้านบาร์เรลต่อวันกลับคืนมาให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสูงกว่าระดับกำลังการผลิตน้ำมันก่อนเกิดเหตุวินาศกรรมเสียอีก
ตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางตลาด คือความสามารถในการฟื้นคืนกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุฯ รวมถึงความสามารถในการป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปด้วย
สัญญา WTI อาจได้รับแรงกดดันในระยะสั้นหลังจากเกิดเหตุพายุฝนที่ฮูสตันซึ่งส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันสหรัฐฯ โดย Exxon Mobil (NYSE:) ได้ปิดโรงกลั่นน้ำมันโบมอนต์ที่ผลิตน้ำมันได้ในอัตรา 370,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วม แต่ถึงกระนั้นเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ก็ไม่ร้ายแรงเท่าพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์เมื่อสองปีที่แล้ว ที่ทำให้สหรัฐฯ ต้องสูญเสียกำลังการผลิตน้ำมันไปกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปฏิทินตลาดพลังงานสัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 23 กันยายน
ตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจาก Genscape Cushing (ตัวเลขจากภาคเอกชน)
วันอังคารที่ 24 กันยายน
รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์จาก
วันพุธที่ 25 กันยายน
รายงาน EIA
วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน
รายงาน จาก EIA
วันศุกร์ที่ 27 กันยายน
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์จาก
ภาพรวมตลาดโลหะมีค่า
สำหรับการส่งมอบเดือนธันวาคม ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์ค เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์ ปิดบวก $8.90 หรือราว 0.6% เท่ากับ $1,515.10 ต่อออนซ์ และมีขาขึ้นรายสัปดาห์ 1%
มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $1,516.77 ปรับขึ้นมา $17.85 หรือราว 1.2% และมีขาขึ้นรายสัปดาห์ 1.9%
เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงไป 25 จุดเป็นครั้งที่สองในปีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดับความหวังของผู้ถือครองสัญญาซื้อทองคำบางท่านที่คาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 50 จุด
แม้เฟดจะมีกำหนดการประชุมนโยบายทางการเงินอีกสองครั้งในปีนี้คือในเดือนตุลาคมและธันวาคม แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนใด ๆ ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยอีก หรือจะมีทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่เมื่อถึงเวลานั้น
ถึงแม้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะตลาดกระทิง แต่ทองคำก็ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ ในขณะนี้สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังดิ่งลง
ในปีนี้ราคาทองคำทะยานขึ้นมาเกือบ 18% แล้ว และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าก็บวกขึ้นมาราว 16%
แนวโน้มขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไปแม้หลังจากช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมที่ทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และดูเหมือนว่าพร้อมที่จะทะลุขึ้นไปยังดินแดน $1,600 แล้วด้วยซ้ำ