ในช่วงปลายปี 2021 นักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลได้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากราคา Bitcoin ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความสนใจอันล้นหลามทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน หลังจากที่มูลค่าตลาดรวมของ crypto ได้พุ่งขึ้นเป็น 3 ล้านล้านดอลลาร์ก็ได้ลดลงเหลือเพียง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2022 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจระดับมหภาคกำลังถดถอยและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นหลายทศวรรษ ด้วยอัตราเงินเฟ้อทำให้เงินในกระเป๋าของนักลงทุนและประชาชนทั่วไปด้อยค่าลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า crypto จะกลายมาเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ดีที่สุด ทั้งนี้นักยุทธศาสตร์หลายคนจึงแนะนำให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์การซื้อขายของตนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบันโดยเริ่มต้นจากการทำ Dollar-cost averaging (DCA) ซึ่งเป็นแนวทางยอดนิยมสำหรับนักลงทุนในหุ้นเนื่องจากไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนและเป็นเพียงพาเพิ่มทุนเพื่อการลงทุนเท่านั้น Dollar Cost Averaging (DCA) คืออะไร? DCA หมายถึงกลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสินทรัพย์จำนวนเท่ากันในช่วงเวลาปกติ โดยวิธีการซื้อขายนี้ไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงของราคาในระยะสั้น ทำให้นักลงทุนสามารถลดต้นทุนเฉลี่ยต่อหุ้นและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดสูง ซึ่งเห็นผลได้ดีในตลาดคริปโต DCA แตกต่างจากการลงทุนแบบเหมาจ่ายซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แยกจากกันซื้อหรือขายสินทรัพย์ผ่านธุรกรรมเดียว ทั้งนี้การลงทุนแบบเหมาจ่ายต้องการให้นักลงทุนติดตามตลาดอย่างต่อเนื่องและซื้อสินทรัพย์ที่ราคาต่ำหรือขายที่ราคาสูง แต่ DCA ไม่ได้เน้นที่จังหวะเวลาของตลาดมากนัก แต่พยายามลดต้นทุนการลงทุนในระยะยาวแทน อย่างไรก็ตาม DCA ในสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากพวกเขาจำเป็นจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลแบบดั้งเดิมหรือ Bitcoin แทนการ DCA ในสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดใหม่ ประโยชน์ของการเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์ เหนือสิ่งอื่นใด DCA สามารถให้ความอุ่นใจแก่นักลงทุนที่ไม่มีเวลาให้กับตลาดได้เนื่องจากเป้าหมายของพวกเขาคือสะสม crypto ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งหากหากซื้อมันอย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับราคาที่ผันผวนก็จะทำให้นักลงทุนสาย DCA สามารถซื้อ Bitcoin
กดอ่านข่าว นักลงทุนมือใหม่ควร DCA เหรียญ Crypto หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบ ต่อที่ Siam Blockchain