โดย Peter Nurse
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงในการซื้อขายในตลาดยุโรปช่วงต้นวันพฤหัสบดี โดยเงินยูโรดีดตัวขึ้นก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกครั้ง
ในเวลา 02:55 น. ET (06:55 GMT) ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซื้อขายลดลง 0.2% เป็น 109.630 โดยลดลงจากจุดสูงสุดของวันพุธที่ 110.79 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเดือนมิถุนายน 2002
เงินยูโรปรับเพิ่มขึ้นกว่า 50% ของ ดัชนีดอลลาร์ และ EUR/USD ซื้อขายแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 0.9996 ซึ่งได้ไต่กลับไปสู่ความเท่าเทียมกันหลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีที่ 0.9863 ในช่วงต้นสัปดาห์
ECB จะประกาศนโยบายล่าสุดตามกำหนดการในเวลา 08:15 น. ET (12:15 GMT) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่เพื่อควบคุมอัตรา เงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงในเรื่องของภาวะถดถอยในยูโรโซนที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ซึ่งตลาดเห็นพ้องต้องกันว่าจะเป็นการปรับขึ้นที่ 75 จุดพื้นฐาน ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้า โดยธนาคารกลางถูกมองว่ามีเวลาจำกัดในการพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโต
ABN Amro คาดว่า ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 75 จุดพื้นฐาน โดยกล่าวว่า "อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แรงขับเคลื่อนของแรงกดดันด้านราคามักจะสูงขึ้นมากกว่าที่ ECB คาดไว้ในเดือนมิถุนายน"
นอกจากนี้ "GDP ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้สูงกว่าที่ธนาคารกลางคาดไว้"
ถึงแม้ว่าค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้น แต่เงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนอย่างดีจาก เฟด ที่คาดว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 75 จุดพื้นฐานเช่นกันในปลายเดือนนี้
จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่ความคิดเห็นจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมที่ Cato Institute ในช่วงท้ายของเซสชั่น ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่ของเฟดจะเข้าสู่ช่วงงดให้การปราศัยก่อนการประชุมในวันที่ 20-21 ก.ย. ของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตอนนี้ Goldman Sachs ก็คาดว่าเฟดจะปรับขึ้น 75 จุดพื้นฐานในเดือนนี้ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 50 จุดพื้นฐานโดยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการแถลงที่โทนเสียงได้มีแนวโน้มไปที่การกระชับนโยบายการเงิน
Goldman Sachs ยังเพิ่มการคาดการณ์เดือนพฤศจิกายนจาก 25 จุดพื้นฐาน เป็น 50 จุดพื้นฐานและเห็นกรอบอัตรากองทุนของเฟด ที่ 3.75-4% ภายในสิ้นปีนี้
GBP/USD ลดลง 0.2% เป็น 1.1505 กลับไปที่ระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปีที่ 1.1405 ขณะที่ AUD/USD ลดลง 0.2% เป็น 0.6754 หลังจาก Philip Lowe ผู้ว่าการ RBA บอกเป็นนัยถึงการชะลอการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ย ในอนาคต
ข้อมูลอื่น ๆ USD/JPY ซื้อขายแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 143.69 หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีที่ 145.00 ในช่วงก่อนหน้า
เงินเยนได้รับผลกระทบจากความอ่อนไหวจากอัตราผลตอบแทนระยะยาวของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเทรดเดอร์ได้วางเดิมพันต่อขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดที่เข้มงวดมากขึ้น ส่งผลให้เงินเยนลดลงมากกว่า 3% ในช่วงสองช่วงที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการเก็งกำไรว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงเพื่อหนุนค่าเงิน แม้ว่าความเห็นจากหัวหน้าเลขาธิการ Hirokazu Matsuno ของญี่ปุ่นจะกล่าวเตือนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ "รวดเร็วเพียงด้านเดียว" จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยในตลาดสกุลเงินเท่านั้น