โดย Ambar Warrick
Investing.com – ค่าเงินหยวนของจีนเด้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันอังคารหลังจากธนาคารกลางจีนพยายามเพิ่มสภาพคล่องในประเทศ ในขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศ
เงินหยวน ซื้อขายทรงตัวรอบระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 6.9315 หลังจากที่ร่วงลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีน เช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นในวงกว้าง
ธนาคารกลางจีน (PBoC) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าจะลดปริมาณสำรองเงินตราต่างประเทศที่จำเป็นสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มว่าน่าจะหนุนเงินหยวน
โดยคาดว่าจะเพิ่มสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ในจีนและเพิ่มการซื้อขายในสกุลเงินหยวน ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าจะสนับสนุนค่าเงิน
นอกจากนี้ จีนยังระบุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สามเพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจท่ามกลางการล็อกดาวน์จากโควิด19 ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ ซึ่งส่งผลต่อค่าเงินหยวน
ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 0.6822 ต่อดอลลาร์ ก่อนหน้าที่ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานเป็น 2.35% เนื่องจากดูเหมือนว่าจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศได้ RBA ได้ขึ้นอัตราสี่ครั้งจนถึงปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี
สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุดเนื่องจาก ดัชนีดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ซึ่ง ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ก็ซื้อขายทรงตัวเช่นกัน
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากในปีนี้หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เทรดเดอร์กำลังคาดหวังว่ามีโอกาส 60% ที่ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานในปลายเดือนนี้
เงินเยน ซื้อขายแดนลบหลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายในครัวเรือน เติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันต่อผู้บริโภคจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น รายงาน รายได้ค่าแรงโดยรวมของลูกจ้างญี่ปุ่น ยังทำให้สถานการณ์แย่ลง เนื่องจากตัวเลขได้ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค่าเงิน เปโซฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากตัวเลข เงินเฟ้อ สูงกว่าที่คาดในเดือนสิงหาคม ตัวเลขที่เกิดขึ้นนั้นได้กดดันให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
ค่าเงินบาท แข็งค่าเล็กน้อย เปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวลง 0.23% มาอยู่ที่ 36.495 บาทต่อดอลลาร์