1. ความสูญเสียครั้งใหญ่
SoftBank Corp (T:9434) ขาดทุนถึง $6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นของ WeWork และลดสัดส่วนการถือหุ้น Uber (NYSE:UBER) ทางอ้อมไปด้วยหลังจากการขาดทุนครั้งใหญ่
ผู้ก่อตั้งบริษัท SoftBank นาย Masayoshi Son ให้สัมภาษณ์ในการแถลงข่าวว่า "วิจารณญาณในการลงทุนของผมย่ำแย่มาก ผมรู้สึกเสียดายอย่างที่สุด" และเขายังเสริมอีกว่า ที่ผ่านมาเขาได้พยายามปิดตาข้างเดียวมาตลอดเกี่ยวกับข้อด้อยของผู้ก่อตั้งบริษัท WeWork นาย Adam Neumann ซึ่งต่อมาถูกไล่ออกจากตำแหน่งซีอีโอพร้อมกับเงินชดเชยมูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
2. Xerox เสนอทำสัญญาร่วมกับ HP เป็นมูลค่า 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
สัญญาดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานอันมั่นคงให้กับบริษัทเพื่อรับมือกับขาลงของอุตสาหกรรมเครื่องพิมพ์ และ Wall Street Journal เผยว่าคณะกรรมการผู้บริหารได้เริ่มหารือกันแล้วเมื่อวานนี้
การเดินหมากครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ เนื่องจากมูลค่าตามราคาตลาดของ Xerox นั้นน้อยกว่าหนึ่งในสามของ HP ที่มีมูลค่าถึง 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเสียอีก ทว่า Xerox (NYSE:XRX) ยังสามารถที่จะนำเงินจำนวน 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐที่บริษัทจะได้รับมาจากยอดขายกิจการร่วมค้าอย่าง Fujifilm มาใช้ในข้อเสนอได้
เมื่อเวลา 6:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1115 GMT) ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีแทบไม่ขยับจากราคาปิดเมื่อคืนนี้ สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้า บวกขึ้น 15 จุด สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 1 จุด และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 3 จุด
4. ซาอุฯ หันไปพึ่งพาประเทศสมาชิกโอเปก, รายงานตัวเลขจาก EIA
ราคาน้ำมันดิบ ย่อตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ หลังข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
API เผยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นมา 4.26 ล้านบาร์เรล ต่างจากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล โดย ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล จะมีกำหนดการรายงานออกมาในเวลา 10:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก
5. เยอรมนีเริ่มมีข่าวดี แต่ยังไม่มีแววว่าจะพลิกฟื้นขึ้น
ยอดคำสั่งซื้อโรงงานเยอรมนี ปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ ภาคกิจการบริการก็ออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดความคาดหวังว่าเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนอาจกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นก็เป็นได้
ยอดคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีในเดือนกันยายนขยายตัวขึ้น 1.3% แต่เมื่อเทียบปีต่อปีก็ยังคงหดตัวลง 5.4% โดยสภาที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจของเยอรมนีได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้เหลือ 0.5% และคาดว่าในปี 2020 จะพลิกฟื้นขึ้นมาเพียง 0.9%
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันนี้แทบไม่มีการรายงานข้อมูลใด ๆ เลย แต่จะมีการให้คำกล่าวจากสมาชิกเฟด นายชาร์ลส์ อีวานส์ (8.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก), นายจอห์น วิลเลียมส์ (9:30 น.) และ นายแพทริค ฮาร์เคอร์ (15:15 น.)