Investing.com - ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายนมีดังต่อไปนี้
1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากบริษัท GM
ในวันนี้สำนักงานสถิติตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของตลาดแรงงานในเดือนตุลาคมนี้
การประท้วงหยุดงานของพนักงานบริษัท General Motors (NYSE:GM) จะต้องส่งผลกระทบต่อ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อย่างแน่นอน ซึ่งผลคาดการณ์ได้คาดไว้ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 89,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเมื่อเดือนกันยายนที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 136,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ตัวเลขอื่น ๆ ที่สามารถบ่งชี้สภาพของตลาดแรงงานได้เป็นอย่างดีได้แก่ ชั่วโมงการทำงานโดยเฉลี่ยรายสัปดาห์ และ รายได้โดยเฉลี่ยต่อชั่วโมง
2. ตัวเลขภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้น
ตัวเลขภาคการผลิตของจีนในภาคเอกชนจาก IHS Markit และ Caixin ขยายตัวขึ้นในเดือนตุลาคม โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อล่าสุดออกมาเท่ากับ 51.7 สูงขึ้นจากเมื่อเดือนกันยายนที่ 51.4 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2017 สวนทางกับแนวโน้มทางลบจากผลกระทบของสงครามทางการค้า
โดยอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนตัวเลขดังกล่าวนั้นมาจากผลการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ได้ยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนมากกว่า 400 ประเภท แม้ว่าล่าสุดได้มีรายงานข่าวที่ส่งสัญญาณว่าทั้งสองฝ่ายเริ่มเกิดความลังเลที่จะทำข้อตกลงทางการค้าเสียแล้ว จึงน่ากังวลว่าการละเว้นภาษีศุลกากรจีนจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนานเพียงใด
3. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมพลิกฟื้นขึ้นหลังจากตัวเลข PMI ของจีนออกมาแข็งแกร่ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังเป็นไปได้ยากที่จะมีการทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ล่วงหน้าก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนนี้
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า บวกขึ้น 53 จุด หรือราว 0.2% ขณะที่ สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ก็ขยับขึ้น 0.2% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ก็ขยับขึ้น 0.3%
4. เศรษฐกิจฝั่งสหราชอาณาจักร
ขณะนี้ก็เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว และสหราชอาณาจักรก็ยังคงไม่ได้ถอนตัวออกมาจากสหภาพยุโรป แม้ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะถอนตัวออกมาให้ได้ก่อนวันที่ 31 ตุลาคมก็ตาม
ค่าเงินปอนด์ ได้แข็งค่าขึ้นและทดสอบระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ แต่นักวิเคราะห์กลับเล็งเห็นว่ายังมีแรงกดดันต่อแนวโน้มขาขึ้นที่จะคงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อยสองเดือนข้างหน้า
ส่วน ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก Markit ประจำเดือนตุลาคมออกมาสูงขึ้น 49.6 จาก 48.3 เมื่อเดือนกันยายน ช่วยชดเชยความอ่อนแอในการจ้างงาน คำสั่งซื้อใหม่ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
5. ปัญหาในแอฟริกาใต้
Moody's ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหลักทรัพย์จะออกมาประกาศผลการตัดสินใจในช่วงครึ่งหลังของวันนี้ว่าจะลดอันดับตราสารหนี้ของแอฟริกาใต้ลงสู่ระดับ 'ย่ำแย่' หรือไม่ เนื่องด้วยปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับงบประมาณที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้า เรื่องอื้อฉาวของรัฐบาล และล่าสุดก็มีประเด็นการให้กู้ยืมเงินจำนวนมหาศาลเพื่อกอบกู้กิจการของบริษัทการไฟฟ้า Eskom อีกด้วย
Moody's เป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหลักทรัพย์บริษัทสุดท้ายที่ยังคงจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุนที่แอฟริกาใต้ และในครั้งนี้บริษัทก็อาจจะคงอันดับของตราสารหนี้ไว้ดังเดิมที่อันดับต่ำสุด Baa3 หรือเปลี่ยนภาพรวมจาก 'แง่ลบ' เป็น 'คงตัว' หรือยิ่งไปกว่านั้นคือลดการจัดอันดับลงไปอีก
หากบริษัทได้ทำการลดการจัดอันดับลงไปอีกก็จะทำให้เกิดความผันผวนในตลาดเกิดใหม่ตลอดทั้งสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะภายหลังจากชัยชนะของพรรคฝั่งกลางซ้ายลัทธิเปรองในการเลือกตั้งของประเทศอาร์เจนตินาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา