โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนในวันศุกร์ที่ 27 มีนาคมมีดังต่อไปนี้
1. ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐแซงหน้าจีน
จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐขณะนี้ได้พุ่งสูงกว่ายอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดในจีนที่ได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ในสหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 86,000 รายและมีผู้เสียชีวิตถึง 1,200 ราย
ในการแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า ตัวเลขที่สูงขึ้นนั้นเนื่องมาจากประสิทธิภาพของกระบวนการตรวจหาผู้ติดเชื้อในสหรัฐ และปธน.ทรัมป์ยังคงตั้งปณิธานไว้ว่าจะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาดำเนินตามปกติโดยเร็วที่สุด และกล่าวว่า "ผู้คนต่างก็ต้องการกลับมาทำงาน"
ทางด้านรายงานของ Washington Post ระบุว่า บรรดาผู้นำจากประเทศกลุ่ม G7 ยังไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมได้ เนื่องจากสหรัฐยืนกรานว่าจะให้เรียกชื่อเชื้อไวรัส Covid-19 ว่า "ไวรัสอู่ฮั่น"
2. วุฒิสภาหนุนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งไม้ต่อให้สภาสหรัฐลงมติ
ในวันนี้สภาสหรัฐจะเตรียมลงมติผ่านนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจมูลค่า 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่วุฒิสภาได้เห็นชอบเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
ตัวแทนพรรครีพับลิกัน นายโธมัส แมสซี จากเคนตักกี ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่นเมื่อวานนี้ว่า เขาต้องการคัดค้านการลงมติด้วยการออกเสียง ซึ่งจะเป็นการบีบบังคับให้มีการจัดตั้งการลงมติแบบครบองค์ประชุมในวอชิงตัน
ทว่าผลกระทบจากนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดเงินทุนทั่วโลก และกดดันให้ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ ดิ่งลงต่ำกว่า 100 และเตรียมส่งมอบขาลงรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนลบ หลังผู้ลงทุนเริ่มขายเพื่อทำกำไร
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนลบวันนี้ หลังจากส่งมอบขาขึ้นในช่วงสามวันที่ผ่านมาซึ่งเข้าข่ายภาวะตลาดกระทิงในทางเทคนิค
เมื่อเวลา 7:10 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1110 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าปรับตัวลง 470 จุดหรือราว 2.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าติดลบ 2.1% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวลง 1.8%
ดัชนี CSI 300 ของจีนย่อตัวลง 0.5% ส่วนดัชนี Stoxx 600 ของยุโรปทรุดตัวลง 2.7%
4. ประเทศฝั่งยุโรประส่ำระสายทั้งทางการแพทย์และทางการเงิน
ประเทศต่าง ๆ ทางฝั่งยุโรปยังคงประสบปัญหาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทั้งทางการแพทย์และทางการเงิน
วันนี้สเปนได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงสุดตั้งแต่เคยมีมาที่ 769 ราย ขณะที่ตัวเลขทั้งผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในอิตาลีก็พุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ลดลงมาสามวันติดกัน โดยการชะลอตัวลงของตัวเลขก่อนหน้านี้นั้นอาจมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เริ่มกระจายตัวออกไปจากลอมบาร์ดีที่อยู่ภูมิภาคทางตอนเหนือ
ส่วนทางด้านการประชุมทางไกลของคณะผู้นำ EU เมื่อวานนี้กลับไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับแผนการรับมือการระบาด เนื่องมาจากประเด็นความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนกู้ยืมร่วมกันที่นำโดยฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี
5. รัสเซียยังคงกดดันตลาดน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากขาขึ้นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงประเภทอื่น ๆ เริ่มอ่อนแรงลง โดยเมื่อเวลา 7:10 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ขยับลง 0.1% เท่ากับ $22.55 ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ติดลบ 1.2% เท่ากับ $26.02 ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซียได้เผยว่า ราคาน้ำมันในระดับที่รัสเซียคิดว่าเหมาะสมคือระหว่าง $45 ถึง $55 ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับราคาขั้นต่ำที่บริษัทผู้ผลิตน้ำมันฝั่งตะวันตกหลายบริษัทคาดการณ์ไว้ และต่ำกว่าจุดคุ้มทุนของบริษัทผู้ผลิตหินน้ำมันเสียด้วยซ้ำ
ทางด้านส.ว.ฝั่งรีพับลิกันจำนวนหนึ่งที่ควบคุมดูแลด้านการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐก็ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐดำเนินการต่อรัสเซียและซาอุดีอาระเบียด้วยเหตุที่ทั้งสองประเทศ "ก่อสงครามทางเศรษฐกิจ" กับสหรัฐ