Investing.com - ราคาหุ้นฟิวเจอร์สในนิวยอร์กขยับสูงขึ้นในวันนี้ ก่อนการประกาศนโยบายการเงินครั้งใหญ่ของเฟด ผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ก็จะมีการเปิดเผยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รวมถึง Amazon (NASDAQ:AMZN) และ Apple (NASDAQ:AAPL) ด้าน Tesla (NASDAQ:TSLA) ได้บรรลุข้อตกลงกับ Baidu (NASDAQ:BIDU) เพื่อใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงเต็มรูปแบบในจีนผ่านฟังก์ชันการทำแผนที่และการนำทางตามรายงานของ Bloomberg
1. หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐมีแนวโน้มขาขึ้น
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังรอการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และผลประกอบการของบริษัทในสัปดาห์นี้
เมื่อเวลา 03:25 ET (07:25 GMT) ดัชนี ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 59 จุดหรือ 0.2% S&P 500 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 10 จุดหรือ 0.2% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 47 จุดหรือ 0.3%
ดัชนีหลักปิดแบบสีเขียวในเซสชั่นก่อนหน้า หลังได้แรงหนุนจากผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีของ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Microsoft (NASDAQ:MSFT) ที่กระตุ้นให้หุ้นเทคโนโลยี megacap เพิ่มขึ้น ด้านดัชนี S&P 500 และ Nasdaq คอมโพสิต ที่ประกอบไปด้วยหุ้นเทคโนโลยีมากกว่า ต่างก็มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นประจำสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 และหยุดสถิติการขาดทุนติดต่อกันหลายสัปดาห์ลง
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งได้เพิ่มความคาดหวังว่าเฟดจะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนกันยายน และบรรเทาความกังวลบางประการเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
2. การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟด
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญประจำสัปดาหในวันพุธนี้ ก็คือวันที่เฟดมีกำหนดการประกาศตัวเลขอัตราดอกเบี้ยล่าสุด
ตลาดไม่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 5.25% เป็น 5.50% หมายความว่าความสนใจของตลาดส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ความคิดเห็นของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดในเดือนเมษายน พาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าข้อมูลล่าสุด "ทำให้เราไม่มีมั่นใจเพียงพอ" ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงจนถึงระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด พร้อมเสริมว่า "มีแนวโน้มว่าจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ในการบรรลุเป้าหมายนั้น"
เจ้าหน้าที่ยังคงระวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เร็วเกินไป เนื่องจากสัญญาณของราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความยืดหยุ่นในตลาดแรงงาน และกิจกรรมที่แข็งแกร่งโดยรวมในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนหลายรายเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟด นั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ หรือก็คือจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน ตามข้อมูลจาก FedWatch Tool ของกลุ่ม CME (NASDAQ:CME)
แต่ดังที่นักวิเคราะห์ของ ING ได้เตือนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า "ความเสี่ยงยังคงอยู่ที่ว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยให้มาอยู่ในระดับที่เป็นกลางมากขึ้นอย่างช้า ๆ และนานขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้"
3. จับตาผลประกอบการรายสัปดาห์ Amazon Apple
ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon และผู้ผลิต iPhone อย่าง Apple เตรียมเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในสัปดาห์นี้
สำหรับ Amazon ซึ่งจะรายงานหลังตลาดปิดในวันอังคาร นักลงกำลังจับตาดูว่าความพยายามอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการลดต้นทุนจะช่วยเพิ่มผลกำไรอย่างต่อเนื่องหรือไม่ การผลักดันให้ลดค่าใช้จ่าย รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุด ก็ช่วยให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานในอเมริกาเหนือดีขึ้นในไตรมาสก่อน
ด้าน Apple จะมีการเปิดเผยผลประกอบการหลังตลาดปิดในวันพฤหัสบดี โดยนักลงทุนจะจับตาดูการจัดส่งอุปกรณ์โทรศัพท์ iPhone รุ่นเรือธงของบริษัทในแคลิฟอร์เนีย และความสามารถของแผนกบริการเพื่อช่วยชดเชยจุดอ่อน
นักวิเคราะห์ยังคาดหวังว่าปัญญาประดิษฐ์จะเป็นที่สนใจของทั้งสองบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alphabet Microsoft และ Meta Platforms ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook (NASDAQ:META) เพิ่งเสนอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการทุ่มงบมหาศาล ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
4. Tesla จับมือ Baidu เปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับในจีน
Bloomberg รายงานในวันนี้ว่า Tesla บรรลุข้อตกลงกับ Baidu เพื่อใช้ฟีเจอร์การขับขี่ด้วยตนเอง (FSD) ขั้นสูงในประเทศจีนผ่านฟังก์ชันการทำแผนที่และการนำทางของยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ต
รายงานกล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกวางแผนที่จะใช้บริการ FSD ซึ่ง Elon Musk มองว่าเป็นจุดสนใจหลัก ในการนำทางและทำแผนที่แบบชัดเจนโดย Baidu
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ Baidu กล่าวว่ารถยนต์ของ Tesla จะมีฟีเจอร์แผนที่ของบริษัทในเดือนหน้า
การร่วมมือกับ Baidu ช่วยให้ Tesla สามารถเคลียร์อุปสรรคด้านกฎระเบียบในการเข้าถึงข้อมูลบนถนนสาธารณะของจีน ซึ่งขณะนี้อนุญาตให้สามารถนำเสนอเทคโนโลยี FSD ในประเทศได้
5. ราคาน้ำมันปรับลดลง
ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันนี้ ขณะที่การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและฮามาสก็ยังได้คลี่คลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งโดยรวมในตะวันออกกลาง รวมถึงศักยภาพของการหยุดชะงักของอุปทานจากภูมิภาคดังกล่าว
ภายในเวลา 03:26 ET ราคา น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 1.0% เป็น 83.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.9% เป็น 87.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสกล่าวกับรอยเตอร์สเมื่อวันอาทิตย์ว่า คณะผู้แทนของกลุ่มฮามาสจะเดินทางไปเยือนกรุงไคโรในวันนี้เพื่อการเจรจาโดยมีจุดมุ่งหมายในการหยุดยิง ซึ่งกลุ่มคาดว่าจะตอบสนองต่อข้อเสนอสงบศึกในฉนวนกาซาของอิสราเอลที่ส่งมอบเมื่อวันเสาร์