โดย Noreen Burke
Investing.com - ภาพรวมของห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
- การประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลก
คาดว่าธนาคารกลางจากทั้งทางฝั่ง ยูโรโซน, ญี่ปุ่น และ แคนาดา จะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินในการประชุมครั้งแรกของปีนี้ ทว่าธนาคารกลางยุโรปจะทำการทบทวนภาพรวมนโยบายทางการเงินเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 โดยตลาดจะจับตาว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายซึ่งไม่เคยทำได้ตามเป้ามากว่าเจ็ดปีแล้วหรือไม่
บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ Pictet ชี้ว่าตลาดโลกเชื่อว่าในปีนี้จะต้องมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่หากธนาคารกลางทำเช่นนั้นไม่ได้ก็จะทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่น โดยทิศทางของการประชุมนโยบายทางการเงินในสัปดาห์นี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดหุ้น ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงไต่ขึ้นทำระดับสูงสุดในประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง
- ทรัมป์เยือนดาวอส
หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ลงนามข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกกับจีนแล้ว ในวันพรุ่งนี้เขาจะได้แสดงทัศนะด้านเศรษฐกิจและการค้าที่การประชุมเศรษฐกิจโลกประจำปีที่กรุงดาวอส
ทั้งนี้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามสกุลเงินอาจไม่ไกลเกินเอื้อม เนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เพิ่มสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี และไอร์แลนด์อยู่ในรายชื่อ "กลุ่มประเทศปั่นสกุลเงิน" ซึ่งล้วนมีดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่เกินดุลทั้งสิ้น
- Netflix เตรียมรายงานผลประกอบการ
นักวิเคราะห์จาก Investing.com คาดว่าบริษัทจะทำกำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่สี่ได้ 52 เซนต์ต่อหุ้น โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ FactSet แล้วน่าจะสูงขึ้นจากไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้วที่ 30 เซนต์
ตั้งแต่ Disney+ ได้ทำการเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน ถือว่า Disney+ เป็นคู่แข่งที่อันตรายที่สุดสำหรับการครองตลาดสตรีมมิ่งของ Netflix โดยหุ้นของ Netflix ได้ทรุดตัวลงมาราว 8% หลังจากนั้น ได้รับแรงกดดันจากการเติบโตของยอดสมาชิกที่ชะลอตัวลงและต้นทุนการผลิตโปรดักชันที่ใช้งบประมาณสูงอย่าง The Crown และ The Irishman ทว่าในทางตรงกันข้าม Disney+ กลับทะยานขึ้น 24%
- ข้อมูลทางเศรษฐกิจ
ปฏิทินเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ค่อนข้างเงียบเหงา วันศุกร์จะมีการรายงานดัชนี PMI สำหรับฝั่งยูโรโซน สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ โดยจะมีการจับตาตัวเลขของฝั่งยูโรโซนว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรือไม่ ส่วนดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักรจะตามมาหลังจากรายงานตลาดแรงงานในวันพรุ่งนี้ เพราะจะเป็นตัวเลขสุดท้ายก่อนการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางอังกฤษในวันที่ 30 มกราคม
หากตัวเลขออกมาย่ำแย่ก็อาจเป็นการยืนยันว่าจะต้องมีการปรับนโยบายทางการเงินให้มีความผ่อนคลายโดยเร็วที่สุดภายในเดือนนี้ แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงหากดัชนี PMI ออกมาในทิศทางที่ดีเกินคาด แต่ถึงกระนั้นหากตัวเลขออกมาดีปานกลางก็คงยังไม่ทำให้ธนาคารกลางเปลี่ยนการตัดสินใจในการลดอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด
- IMF เตรียมปรับผลคาดการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลก