Investing.com -- ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 17 มกราคมมีดังต่อไปนี้
1. การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดใน 30 ปี แต่เงินหยวนกลับแข็งค่า
เศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 30 ปี โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจีนขยายตัวขึ้นเพียง 6.1% หดตัวลงจากเมื่อปี 2018 ที่ 6.2% ขณะที่อัตราการเติบโตในไตรมาสที่สี่ก็หดตัวลงเหลือ 6.0%
แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะบ่งบอกว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่พลิกฟื้นขึ้นมาในปีนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าผลกระทบทางลบจากสงครามทางการค้ากับสหรัฐฯ นั้นเริ่มลดลงแล้ว
2. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก, ตลาดยุโรปทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่
ข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนมีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ในวันนี้ตามรอยตลาดยุโรปที่มุ่งหน้าสู่แดนบวก
เมื่อเวลา 6:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1115 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ขยับขึ้น 80 จุดหรือราว 0.3% ขณะที่ {{8839|สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า}} ดีดขึ้น 0.2% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ก็ปรับขึ้น 0.4%
ก่อนหน้านี้ดัชนี Euro Stoxx 600 และ DAX ของเยอรมนีต่างก็พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ ขณะที่ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสก็พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบสิบสองปีด้วย
ปฏิทินการรายงานผลประกอบการในวันนี้ค่อนข้างเบาบางหลังจากการรายงานผลประกอบการของธนาคารต่าง ๆ และนอกจากนี้ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) ก็ได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่สี่ในประวัติศาสตร์แล้วที่มีมูลค่าตามราคาตลาดถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
3. ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1330 GMT) จะมีการรายงานยอดบ้านที่กำลังเริ่มสร้างและใบอนุญาตการก่อสร้างภายหลังจากผลสำรวจของ NAHB ได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาฯ ที่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี
ทว่าตัวเลขที่น่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษในวันนี้คือผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ซึ่งจะรายงานออกมาในเวลา 9.15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก พร้อมกับผลผลิตภาคการผลิตและอัตราการใช้กำลังการผลิตประจำเดือนธันวาคม ตามมาด้วยผลสำรวจตำแหน่งงานเปิดใหม่ JOLTS และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเวลา 10.00 น. นอกจากนี้จะมีการให้คำกล่าวของประธานเฟดประจำฟิลาเดลเฟีย นายแพทริค ฮาร์เคอร์ ในเวลา 9.00 น. และนายแรนดัล ควอร์เลส ในเวลา 12.45 น. ด้วยเช่นกัน
4. ยอดค้าปลีกสหราชอาณาจักรเป็นปัจจัยที่ยืนยันว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน
ยอดค้าปลีกสหราชอาณาจักรโดยรวมหดตัวลง 0.6% ต่างจากที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 0.5% โดยยอดค้าปลีกได้หดตัวลงมากว่าห้าเดือนติดต่อกันแล้วและเป็นการหดตัวเจ็ดเดือนจากทั้งหมดเก้าเดือน นอกจากนี้ตัวเลขของเดือนพฤศจิกายนก็ถูกปรับลดลงอีกด้วย
ตลาดคาดว่าในการประชุมสภานโยบายทางการเงินของธนาคารกลางอังกฤษช่วงสิ้นเดือนนี้ มีโอกาส 75% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 25จุด ด้วยเหตุนี้เงินปอนด์จึงอ่อนค่าลง
ในทางตรงกันข้าม ธนาคารกลางยุโรปกลับได้รับแรงกดดันให้ใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจหลังจากอัตราเงินเฟ้อของฝั่งยูโรโซนเริ่มคงตัว
5. กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลแบบอายุ 20 ปี
อ้างอิงจากแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สำหรับแผนการในช่วงครึ่งปีแรก ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลแบบอายุ 20 ปีเป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี
โดยอายุพันธบัตรรัฐบาลแบบใหม่นี้น่าจะปรับลดสภาพคล่องจากพันธบัตรรัฐบาลแบบอายุ 10 ปีและ 30 ปีได้ แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดด้วย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ชี้ว่า ทางกระทรวงฯ คาดหวังว่าพันธบัตรรัฐบาลแบบอายุ 20 ปีจะได้รับความนิยมหลังจากการเปิดตัวครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1986 โดยทางกระทรวงการคลังจำเป็นต้องทำเช่นนี้เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณที่สูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีในขณะนี้ ซึ่งเป็นการขาดดุลที่มากที่สุดในรอบเจ็ดปีแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวมาตลอดนับทศวรรษก็ตาม