Investing.com - ด้วยความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนต่างเฝ้ารอรายงานการประชุมครั้งล่าสุดจาก FOMC ในคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจน
การประชุมเฟดครั้งล่าสุดส่งผลให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน และมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะเดียวกันในเดือนมีนาคม ทำให้ตลาดในตอนแรกเกิดความเชื่อมั่นว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ชุดข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ตลอดจนคำแถลงจากสมาชิกเฟด ทำให้แนวโน้มดังกล่าวตกไป ดังนั้น 21% ของตลาด เชื่อว่าเฟด จะกลับมาที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานสำหรับการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 22 มีนาคม
ลอเล็ตต้า เมสเซอร์ และ เจมส์ บุลลาร์ด ทำให้แนวคิดนี้ชัดเจนในความคิดเห็นของพวกเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดังนั้น รายงานการประชุมอาจเผยให้เห็นว่าจะมีสมาชิกคนอื่นสนับสนุนแนวคิดของ เมสเซอร์ และ บุลลาร์ด (ผู้ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกที่ลงคะแนนเสียงของ FOMC ในปีนี้) หรือไม่ และอาจมีอิทธิพลต่อความเป็นไปได้ที่เฟดจะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีก
นอกจากนี้ นักลงทุนจะดูรายงานการประชุมเพื่อหาเบาะแสว่าผู้กำหนดนโยบายจำนวนมากเห็นสมควรต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขนาดใหญ่ขึ้นในการประชุมครั้งล่าสุดของพวกเขาหรือไม่เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม หลายคนเชื่อว่ารายงานการประชุมของเฟดจะลดความคาดหวังสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขนาดใหญ่มากขึ้น
"เราเชื่อว่ารายงานการประชุมจะแสดงเหตุผลเชิงกลยุทธ์สำหรับการเคลื่อนไหวที่ 25 จุดพื้นฐานโดยเมื่อเราเห็นข้อมูลทางเศรษฐกิจในครึ่งแรกที่ออกมา ทำให้เฟดมีพื้นที่มากพอที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย" Evercore ISI กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า อ้างโดยบลูมเบิร์กเมื่อวันอังคาร
รายงานการประชุมยังเปิดเผยวิธีที่เจ้าหน้าที่ตีความข้อมูลที่พวกเขามีในการประชุม โดยจะให้เบาะแสว่าพวกเขาตีความข้อมูลเหล่านั้นอย่างไร ซึ่งหากว่าในบันทึกการประชุมแสดงให้เห็นว่าสมาชิก FOMC เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นมีแรงไม่มากพอในการลดอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้น 50 จุดพื้นฐานในการประชุมครั้งถัดไป