แผนภาษีของทรัมป์อาจเพิ่มความตึงเครียดทางการค้าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

Bob Hemisath เกษตรกรชาวไอโอวาและประธานกลุ่มสนับสนุนเกษตรกรเพื่อการค้าเสรีแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นหากโดนัลด์ ทรัมป์ใช้ภาษีที่เสนอสําหรับสินค้าจีนและการนําเข้าอื่นๆ

แผนของทรัมป์รวมถึงภาษี 60% สําหรับสินค้าจีน และภาษีขั้นต่ํา 10% สําหรับการนําเข้าอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่ง Hemesath กลัวว่าอาจนําไปสู่สถานการณ์ที่คล้ายกับสงครามการค้ากับจีนในปี 2018-2019 ซึ่งส่งผลให้มีการเก็บภาษีตอบโต้สินค้าเกษตรของสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าภาษีดังกล่าวอาจยกระดับอัตราภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ให้อยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งแต่ทศวรรษ จีน 1930 ซึ่งอาจทําให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ ขัดขวางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และกระตุ้นให้เกิดการตอบโต้ทั่วโลก สิ่งนี้อาจนําไปสู่การสับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานอย่างมีนัยสําคัญและส่งผลเสียต่อภาคการเกษตรของสหรัฐฯ

สมาคมผู้ปลูกข้าวโพดจีนสมาคมถั่วเหลืองอเมริกันจีนคาดการณ์ว่าความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่กับจีนอาจทําให้การสูญเสียการส่งออกพืชผลของสหรัฐฯ ลดลงอีก และทําให้การนําเข้าสินค้าเกษตรของจีนแข็งแกร่งขึ้นจากประเทศต่างๆ เช่น บราซิลและอาร์เจนตินา

ในการแข่งขันชิงตําแหน่งประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ทรัมป์ได้ยกย่องประโยชน์ของภาษีศุลกากร โดยแนะนําว่าภาษีเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูการผลิตของสหรัฐฯ และสร้างรายได้จากรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์โต้แย้งว่าโดยทั่วไปแล้วภาษีจะจ่ายโดยบริษัทนําเข้า ซึ่งจะส่งต่อต้นทุนให้กับผู้บริโภคหรือดูดซับผลกําไรที่ลดลง

มูลนิธิภาษีประเมินว่าภาษีที่เสนอโดยทรัมป์จะเพิ่มระดับภาษีเฉลี่ยของสหรัฐฯ เป็น 17.7% ซึ่งเปรียบเทียบกับพระราชบัญญัติภาษีศุลกากร Smoot-Hawley ปี 1930 ซึ่งทําให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ําครั้งดีมากรุนแรงขึ้นโดยการยับยั้งการค้าโลก

รองประธานาธิบดีแฮร์ริสได้วิพากษ์วิจารณ์แผนภาษีของทรัมป์ โดยเปรียบเสมือนภาษีการขายแห่งชาติ และคาดการณ์ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ต่อปีสําหรับครอบครัวในสหรัฐฯ ห้องปฏิบัติการงบประมาณของมหาวิทยาลัยเยลประมาณการว่าภาษีเหล่านี้สามารถลดรายได้ครัวเรือนต่อปีโดยเฉลี่ย 2,576 ดอลลาร์ โดยมีความเป็นไปได้สูงถึง 7,600 ดอลลาร์หากทรัมป์กําหนดภาษีที่สูงขึ้นสําหรับสินค้าบางประเภท

แคมเปญของทรัมป์ได้อ้างถึงการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าภาษีสากล 10% อาจไม่ทําให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ และอาจนําไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจและการสร้างงานด้วยการลดภาษีที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในวงกว้างของภาษีดังกล่าวอาจส่งผลกว้างขวาง โดยห้องปฏิบัติการของเยลคาดการณ์ว่าราคาผู้บริโภคเริ่มต้นจะเพิ่มขึ้น 1.2% ถึง 5.1%

แฮร์ริสสนับสนุนแนวทางที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นในการเก็บภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ และได้เสนอให้เจรจาข้อตกลงสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก-แคนาดาอีกครั้งในปี 2026 เพื่อปกป้องงานด้านยานยนต์

ทรัมป์อาจสามารถกําหนดภาษีได้อย่างรวดเร็วโดยใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติและกฎหมายแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่ใช้ในช่วงรัฐบาลก่อนหน้านี้โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส อดีตผู้แทนการค้าสหรัฐฯ Robert Lighthizer ที่ปรึกษาของทรัมปจีนจีน์มีบทบาทในความพยายามเหล่านี้หากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง

ทนายความด้านการค้าและความมั่นคงแห่งชาติ Nazak Nikakhtar ตั้งข้อสังเกตว่าภาษีศุลกากรในวงกว้างอาจได้รับการพิสูจน์ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ในขณะที่ภาษีที่สูงขึ้นสําหรับจีนอาจถูกนํามาใช้อย่างรวดเร็วผ่านการสอบสวนแนวทางปฏิบัติทางการค้าของจีน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน