Methode Electronics แต่งตั้งรองประธานอาวุโสคนใหม่สําหรับธุรกิจยานยนต์ระดับโลก

ชิคาโก - Methode Electronics, Inc. (นิวยอร์ก: MEI) ผู้ให้บริการโซลูชั่นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับการใช้งานต่างๆ ได้ประกาศแต่งตั้ง Lars Ullrich เป็นรองประธานอาวุโสของธุรกิจยานยนต์ทั่วโลก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธันวาคม 2024 ในบทบาทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ Ullrich จะรับผิดชอบทิศทางเชิงกลยุทธ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมเชิงพาณิชย์ของแผนกยานยนต์ของบริษัททั่วโลก

การแต่งตั้งของ Ullrich เกิดขึ้นหลังจากที่เขาดํารงตําแหน่งหัวหน้าฝ่ายภูมิภาคอเมริกาและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Larsen และ Toubro Semiconductor Technologies เขานําประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในอุตสาหกรรมการจัดหายานยนต์ โดยดํารงตําแหน่งสําคัญที่ Infineon Technologies และ Robert Bosch ความเชี่ยวชาญของเขาอยู่ที่ความเป็นผู้นําเชิงกลยุทธ์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ความเป็นเลิศในการดําเนินงานและการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่คุณค่า

Jon DeGaynor ประธานและซีอีโอแสดงความมั่นใจในความสามารถของ Ullrich โดยอ้างถึงประวัติด้านนวัตกรรมและโซลูชันผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสําเร็จ ตลอดจนทักษะของเขาในการเป็นผู้นําทีมระดับโลกเพื่อก้าวข้ามความคาดหวังของลูกค้าและบรรลุเป้าหมายการเติบโต

Methode Electronics ซึ่งมีสํานักงานใหญ่ในชิคาโกดําเนินงานทั่วอเมริกาเหนือยุโรปตะวันออกกลางและเอเชียโดยให้บริการผลิตภัณฑ์เมคคาทรอนิกส์สําหรับ OEM ข้อเสนอของบริษัทครอบคลุมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ระบบไฟ LED การจ่ายไฟ และการใช้งานเซ็นเซอร์ ให้บริการตลาดต่างๆ เช่น ยานยนต์ รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ คลาวด์คอมพิวติ้ง การก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากแถลงการณ์ข่าวประชาสัมพันธ์จาก Methode Electronics, Inc.

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Methode Electronics รายงานไตรมาสแรกที่ท้าทายสําหรับปีงบประมาณ 2025 โดยมียอดขายรวม 259 ล้านดอลลาร์และขาดทุนก่อนหักภาษีที่ปรับปรุงแล้วที่ 9 ล้านดอลลาร์ แม้ยอดขายจะลดลง แต่บริษัทก็มุ่งเน้นไปที่ภาครถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งมีส่วนช่วย 18% ต่อรายได้ของไตรมาส Methode Electronics กําลังวางแผนที่จะเปิดตัวโปรแกรมมากกว่า 30 โปรแกรมในอีกสองปีงบประมาณข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าในระยะยาว

ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจําปี Methode Electronics ได้เลือกกรรมการสิบคน ให้สัตยาบัน Ernst & Young LLP เป็นสํานักงานบัญชีสาธารณะที่จดทะเบียนอิสระของบริษัทสําหรับปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 3 พฤษภาคม 2025 และผ่านการลงคะแนนเสียงที่ปรึกษาที่ไม่มีผลผูกพันเกี่ยวกับค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่บริหารที่มีชื่อ บริษัทยังได้แต่งตั้ง Mark Schwabero เป็นประธานคณะกรรมการคนใหม่หลังจากการเกษียณอายุของ Walter Aspatore

แม้จะมีปัญหาในการดําเนินงานในโรงงานในเม็กซิโกและกระแสเงินสดอิสระติดลบ 2.7 ล้านดอลลาร์ แต่ Methode Electronics คาดว่ายอดขายสุทธิในปีงบประมาณ 2025 จะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะกลับมาเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกที่ทํากําไรได้ในปีงบประมาณ 2026 บริษัทยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด EV สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในการพัฒนาล่าสุดที่ Methode Electronics

ในขณะที่ Methode Electronics, Inc. (NYSE: MEI) เตรียมพร้อมสําหรับการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นําในธุรกิจยานยนต์ทั่วโลก

ตามข้อมูลของ InvestingPro ปัจจุบัน Methode Electronics มีมูลค่าตามราคาตลาด 326.37 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงตําแหน่งในอุตสาหกรรมการจัดหายานยนต์ อัตราส่วนราคาต่อบัญชีของบริษัทอยู่ที่ระดับต่ํา 0.44 ซึ่งบ่งชี้ว่าหุ้นอาจมีมูลค่าต่ําเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี สิ่งนี้สอดคล้องกับเคล็ดลับของ InvestingPro ที่ระบุว่า MEI กําลัง "ซื้อขายที่ราคา/บัญชีทวีคูณต่ํา"

แม้จะมีสภาวะตลาดที่ท้าทาย แต่ Methode Electronics ยังคงรักษาผลตอบแทนเงินปันผลที่สําคัญไว้ที่ 6.05% ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้ เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําว่าบริษัท "จ่ายเงินปันผลจํานวนมากให้กับผู้ถือหุ้น" และ "รักษาการจ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 43 ปีติดต่อกัน" อย่างน่าประทับใจ ความมุ่งมั่นอันยาวนานต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นนี้อาจให้ความมั่นคงแก่นักลงทุนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงผู้นําและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม สิ่งสําคัญคือต้องทราบว่าบริษัทต้องเผชิญกับอุปสรรคทางการเงิน รายได้ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2025 อยู่ที่ 1,083.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีรายได้เติบโต -8.73% ในช่วงเวลาเดียวกัน รายได้ที่ลดลงนี้ควบคู่ไปกับอัตรากําไรจากการดําเนินงานที่ -1.0% เน้นย้ําถึงความท้าทายที่ผู้นําคนใหม่จะต้องแก้ไข

สําหรับนักลงทุนที่พิจารณา Methode Electronics InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 11 ข้อที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท เคล็ดลับเหล่านี้มีประโยชน์สําหรับการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดในขณะที่บริษัทนําทางผ่านการเปลี่ยนแปลงความเป็นผู้นําและมีเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กําลังพัฒนา

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน