โดย Barani Krishnan
Investing.com – ตลาดน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นครั้งที่สี่ในรอบ 5 วัน โดยแตะระดับสูงสุดเกือบ 125 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลาสูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากข้อมูลเชิงบวกเกี่ยวกับการบริโภคน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ได้ทำให้ความกังวลว่าอุปสงค์จะถูกทำลายจากราคาน้ำมันที่แพงเป็นประวัติการณ์
หลังจากที่จีนคลายล็อคดาวน์ อาจจะมีแรงผลักดันให้เกิดความต้องการน้ำมันในประเทศมากขึ้น ในขณะที่การหยุดงานของพนักงานน้ำมันในนอร์เวย์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ส่งผลกระทบต่ออุปทานทั่วโลกต่อไป เทรดเดอร์กล่าว
“ตลาดน้ำมันยังคงตึงตัวอย่างมาก และนั่นก็ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้น” เครก เออร์แลม นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าว
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับน้ำมันดิบทั่วโลก ซื้อขายในลอนดอนเพิ่มขึ้น 3.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.5% เป็น 123.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบเบรนท์ก่อนหน้านี้แตะระดับสูงสุดที่ 124.38 ดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 14 ปี โดยแตะระดับที่ 130 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม หลังจากการบุกยูเครนจากรัสเซีย ซึ่งทำให้เกิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจากชาติตะวันตก ส่งผลให้ตลาดพลังงานปั่นป่วน โดยเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 60% จนถึงปีนี้
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ที่ซื้อขายในนิวยอร์ก ปรับตัวขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 2.3% เป็น 122.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทำระดับสูงสุดที่ 123.15 ดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี เกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 62%
เกิดตลาดขาขึ้นในวันพุธหลังจากสำนักงานบริหารข้อมูลพลังงานรายงานว่า สินค้าคงคลังน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 812,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่ม 1.08 ล้านบาร์เรล
EIA กล่าวว่าการผลิตน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว เฉลี่ย 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่น้ำมันเบนซินที่จำหน่ายสู่ตลาด ซึ่งเป็นหน่วยวัดความต้องการเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์หลักของอเมริกา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงน้อยกว่า 1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากข้อมูลดังกล่าว โดยสวนทางกับข้อมูลน้ำมันดิบคงคลังและน้ำมันกลั่นที่รายงานโดย EIA
น้ำมันดิบ คงคลัง เพิ่มขึ้น 2.03 ล้านบาร์เรล เทียบกับการคาดการณ์ที่ 1.92 ล้านและการเบิกถอนในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 5.07 ล้านบาร์เรล
ยอดคงเหลือของผลิตภัณฑ์ กลั่น หรือน้ำมันระดับกลางถังที่กลั่นเป็นดีเซลสำหรับรถบรรทุก รถโดยสาร รถไฟ และเรือ เชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินและ น้ำมันทำความร้อน สำหรับบ้าน เพิ่มขึ้น 2.59 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.06 ล้านบาร์เรล และตัวเลขเบิกถอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 530,000 บาร์เรล
การส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยร่วงลงมาอยู่ที่ 2.23 ล้านบาร์เรลต่อวันจากระดับของสัปดาห์ก่อนซึ่งอยู่ที่ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
John Kilduff หุ้นส่วนของกองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านพลังงานของนิวยอร์ก Again Capital กล่าวว่า "เป็นคำถามจุกจิกของการเลือกข้อมูลที่คุณต้องการและตลาดน้ำมันเบนซินราคาได้พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่ได้เห็นราคาหน้าปั๊มน้ำมัน”
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.955 ดอลลาร์ต่อแกลลอนที่ปั๊มของสหรัฐฯ ในวันพุธ เพิ่มขึ้นจาก 3.060 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว ดีเซลมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.719 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับระดับปีที่แล้วที่ 3.201 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
นอกจากราคาเฉลี่ยแล้ว ปั๊มน้ำมันในสหรัฐฯ หลายแห่งขายน้ำมันเบนซินที่ 5 ดอลลาร์ขึ้นไป โดยปั๊มแห่งหนึ่งในเมืองเมนโดซิโน ห่างจากซานฟรานซิสโกไปทางเหนือประมาณ 150 ไมล์ มีรายงานว่าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมนโดซิโนขายน้ำมันในราคาอีกแค่ 40 เซ็นต์ก็ 10 ดอลลาร์ต่อแกลลอนแล้ว น้ำมันดีเซลในหลายพื้นที่ของชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแคลิฟอร์เนีย ราคาขายปลีกที่สูงกว่า 6 ดอลลาร์แล้ว
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก EIA ที่กระตุ้นความเชื่อมั่นในน้ำมันยังแสดงให้เห็นว่าปริมาณสำรองปิโตรเลียมเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ ลดลงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าช่วงกลางเดือนพฤษภาคมประมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อสัปดาห์ เนื่องจากฝ่ายบริหารของไบเดนพึ่งพาน้ำมันสำรองฉุกเฉินมากขึ้น เพื่อลดการขาดดุลอุปทานและลดราคาเชื้อเพลิงที่สูงเป็นประวัติการณ์
ยอดคงเหลือของ SPR อยู่ที่ 519.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มิถุนายน ลดลง 7.3 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม สำนักงานข้อมูลพลังงาน (EIA) กล่าวในรายงานสถานะปิโตรเลียมประจำสัปดาห์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ
การเบิกถอนเปรียบเทียบกับ 5 ล้านบาร์เรลที่นำออกจากคลังน้ำมันสำรองในช่วงสัปดาห์ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม
ความสมดุลของ SPR ยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 ปี โดยแตะระดับต่ำสุดที่เห็นครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 1987
“การเบิกถอน SPR รายสัปดาห์มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ที่ระดับเหล่านี้หรืออาจจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อยโดยพิจารณาจากการไหลออกที่กำหนดไว้ระหว่างปลายเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม” Kilduff จาก Again Capital กล่าว
ฝ่ายบริหารของไบเดนกำลังอยู่ระหว่างการเบิกถอนน้ำมัน SPR ประมาณ 180 ล้านบาร์เรลระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เพื่อลดช่องว่างอุปทานน้ำมันดิบ และลดราคาหน้าปั๊มน้ำมันบางส่วนลง