โดย Barani Krishnan
Investing.com - ธนาคารกลางสหรัฐฯ และ ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ได้ทำให้เกิดตลาดกระทิงทองคำโดยไม่รู้ตัว
การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพุธและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ร่วงลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลว่าธนาคารกลางจะตอบโต้ด้วยนโยบายที่เกินควร
นั่นทำให้ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากโฟกัสกลับไปที่การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
การเพิ่มราคาทองคำเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ตามด้วยธนาคารแห่งอังกฤษซึ่งกลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีหลังการระบาดของโคโรนาไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว
ทั้งเฟดและ BOE เตือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากการระบาดใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด โดยธนาคารอังกฤษเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงถึง 6% ในเดือนเมษายน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 3 เท่า ขณะที่แรงกดดันด้านราคา สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษ
ตัวบ่งชี้อัตราเงินเฟ้ออีกตัวของสหรัฐคือข้อมูลการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี โดยแสดงให้เห็นว่าที่อยู่อาศัยเริ่มต้นขึ้นเกือบ 12% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสูงที่สุดในรอบแปดเดือน แม้ว่าราคาบ้านจะสูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม
ทองคำยังได้รับความช่วยเหลือจากการเคลื่อนไหวของนักลงทุนในวันพฤหัสบดีที่เข้าสู่สภาวะต้องการความปลอดภัย เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในดัชนี Nasdaq ของ Wall Street ปรับตัวลดลง
เอ็ดเวิร์ด โมย่า นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์กล่าวว่า "ความเสี่ยงในระยะสั้นยังคงเพิ่มสูงขึ้น และนั่นอาจนำไปสู่การไหลของเงินตราเข้าทองคำในท้ายที่สุด จากการลดคิวอี และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย(ที่คาดไว้) ถูกกำหนดไว้แล้ว"
“การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงกำลังกระทบกับตลาดหุ้น Nasdaq และมีผู้ค้าบางรายเข้าสู่วัฏจักร ในขณะที่นักลงทุนคนอื่น ๆ พาเงินหลบภัยเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ” โมย่า กล่าวโดยสังเกตว่าทองคำยังคงเผชิญกับแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเพิ่มขึ้น 33.70 ดอลลาร์หรือ 1.9% ที่ 1,798.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันพฤหัสบดี เพิ่มขึ้นสูงสุดในหนึ่งวันสำหรับสัญญา ราคาทองคำ Spot ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม
ทองคำทำสถิติสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1,799.95 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงที่สุดที่จะไปถึงระดับ 1,800 ดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม