โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ การจำกัดอุปทานจากผู้ผลิตรายใหญ่ยังคงขัดแย้งกับความต้องการเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มเปิดดำเนินการและฟื้นตัวจากโควิด-19
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 3.46% สู่ระดับ $28.09 เมื่อเวลา 23:53 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:53 น. GMT) ยังคงอยู่เหนือระดับ 80 ดอลลาร์ หลังจากเพิ่มขึ้นเกือบ 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.92% เป็น 24.95 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2557 ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6% ในวันศุกร์
ด้วยจำนวนประชากรที่ออกจากการล็อกดาวน์มากขึ้น รวมถึงซิดนีย์ของออสเตรเลียซึ่งปลดการล็อกดาวน์ 107 วัน ความต้องการเชื้อเพลิงก็เพิ่มขึ้นและราคาก็พุ่งสูงขึ้น เช่นกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้นห้าสัปดาห์ติดต่อกัน ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นเจ็ดสัปดาห์ติดต่อกัน
แม้ว่าราคาถ่านหินและก๊าซจะพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป การเพิ่มขึ้นของ น้ำมันดิบคงคลัง ในสหรัฐอเมริกาหลังจากการดึงออกมาล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
“เราคิดว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในไตรมาสนี้ และยังคงคาดการณ์ว่าจะค่อย ๆ ลดลงในปีหน้า” แครอไลน์ เบน นักเศรษฐศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของ Capital Economics กล่าวในหมายเหตุ
สินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นช่วงที่สอง ตามข้อมูลจาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (American Petroleum Institute) และ สำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (U.S. Energy Information Administration-EIA) เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ยังได้ตัดสินใจที่จะรักษาระดับการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยอย่างต่อเนื่อง ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“การตัดสินใจของ OPEC ที่จะระงับการเพิ่มผลผลิตที่มากกว่ากำหนดนั้น มีแนวโน้มว่าจะทำให้ตลาดตึงตัวมากขึ้นในไตรมาสที่สี่” แดเนียล ไฮนส์ นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโส จาก Australia & New Zealand Banking Group (OTC:ANZBY) Ltd. บอกกับบลูมเบิร์ก
"ตลาดยังคงทำราคาได้ดีเนื่องจากความต้องการยังคงเติบโต" เขากล่าวเสริม