โดย Doris Yu
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของผู้บริโภครายสำคัญได้กระตุ้นความต้องการเชื้อเพลิงและน้ำมันคงคลังที่ระบายออก ขณะที่นักลงทุนกำลังรอผลการประชุมขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) เพื่อดูแนวโน้มเกี่ยวกับนโยบายการผลิต
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.59% เป็น 75.25 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:40 น. ET (4:40 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.47% เป็น 73.19 ดอลลาร์
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน เพิ่มขึ้น 7.199 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิถุนายน การคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com คาดการณ์ว่าจะลดลง 3.625 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการลดลง 8.537 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ ที่จะประกาศภายในวันนี้
ความต้องการเชื้อเพลิงได้รับแรงหนุนจากตลาดสำคัญ ๆ รวมถึงสหรัฐและจีน ซึ่งกำลังฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด
OPEC+ มีกำหนดจะประชุมกันในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการส่งออก ขณะที่รัสเซียกำลังพิจารณาการเพิ่มอุปทาน โดยบางประเทศในกลุ่ม OPEC+ ก็กำลังหารือเกี่ยวกับการเพิ่มอุปทานที่อาจเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน อิหร่านระบุว่าการเจรจาด้านนิวเคลียร์กับมหาอำนาจโลกอาจเลื่อนออกไปหลังเดือนสิงหาคมและอาจเกิดความล่าช้าในการเพิ่มกำลังการผลิต
“ราคาน้ำมันกำลังอยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากมีอุปทานตึงตัวและอุปสงค์ก็ฟื้นตัวดี ประกอบกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ล่าช้า ตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่การประชุม OPEC+ ในสัปดาห์หน้า” วิลล์ ซุงชิล ยุน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ VI Investment กล่าวกับ Bloomberg