Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ ขยายการทำกำไรจากเซสชั่นก่อนหน้าเนื่องจากความกังวลว่าอุปทานจะตึงตัวมากขึ้น ท่ามกลางการหยุดชะงักอย่างต่อเนื่องในกิจกรรมการขนส่งทั่วโลกและความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทำให้เกิดการฟื้นตัวของราคาที่แข็งแกร่งในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 75 ถึง 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากราคาที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ถูกระจำกัดจากความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อที่เหนียวแน่นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในระยะยาวจะสร้างแรงกดดันต่ออุปสงค์
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนเมษายน ขยับขึ้น 0.2% เป็น 82.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 77.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อ 20:10 ET (01:10 GMT)
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs กล่าวในบันทึกว่าพวกเขาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับ 70 ถึง 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะสั้น
การโจมตีในทะเลแดงครั้งใหม่กระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงัก
กองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำการโจมตีครั้งใหม่ต่อกลุ่มฮูตีเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในทะเลแดง หลังจากที่กลุ่มยังคงโจมตีเรือในภูมิภาคนี้พร้อมกันกับปาเลสไตน์ในสงครามอิสราเอล-ฮามาส
สงครามยังแสดงให้เห็นสัญญาณของความรุนแรงที่ลดลงเพียงเล็กน้อย หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ปัดตกมติหยุดยิงขององค์การสหประชาชาติเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่อิสราเอลก็ปฏิเสธข้อเสนอจากกลุ่มฮามาสเช่นกัน
ความกลัวว่าอุปทานจะหยุดชะงัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลของสงครามอิสราเอล-ฮามาสยังคงไม่แน่นอน
จับตาข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมาก
ตลาดยังรอสัญญาณทางเศรษฐกิจที่สำคัญจากหลายประเทศเศรษฐกิจชั้นนำในสัปดาห์นี้
ข้อมูลที่สำคัญที่สุดคือ ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดนั้นคาดว่าจะนำมาใช้พิจารณาแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่
ตัวเลขครั้งที่สองของข้อมูล GDP สหรัฐอเมริกาในไตรมาสสี่ ได้รับความควาดหวังว่าจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ข้อมูล PMI จากประเทศจีนก็จะมีการเผยแพร่ในสัปดาห์นี้เช่นกัน และคาดว่าจะเป็นปัจจัยในแนวโน้มเศรษฐกิจของผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
สัญญาณล่าสุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วยสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวในจีน