ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 1.5% หลังดอลล์แข็งค่ารับข้อมูลจ้างงานแกร่ง

เผยแพร่ 09/12/2566 15:05
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 1.5% หลังดอลล์แข็งค่ารับข้อมูลจ้างงานแกร่ง
XAU/USD
-
DX
-

InfoQuest - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์ได้ลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนมี.ค.ปีหน้า หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 31.90 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 2,014.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวลง 3.4% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 78.30 เซนต์ หรือ 3.25% ปิดที่ 23.276 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 919.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 29.60 ดอลลาร์ หรือ 3.02% ปิดที่ 951.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.45% สู่ระดับ 104.0105

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%

นอกจากนี้ การเปิดเผยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 69.4 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. และเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 62.0 จากระดับ 61.3 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ตลาดมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดดังกล่าวนั้นได้บ่งชี้ว่า อาจเร็วเกินไปที่ตลาดจะคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐในต้นปีหน้า ซึ่งมุมมองดังกล่าวได้ช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ แต่กดดันสัญญาทองคำ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า (12-13 ธ.ค.) ซึ่งตลาดคาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมดังกล่าว

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย