ลงทุนที่เวียดนามจะเป็นตัวเบิกทางในอนาคต
กำลังการผลิตของ SUPER ในช่วง 3 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเพียง 806 MWe ในปี 2562 เป็น 1,718 MWe ในปี 2565 ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และลมในเวียดนาม และโรงไฟฟ้าพลังงาน จากขยะในประเทศ รวมกำลังการผลิตที่เพิ่มเข้ามาใหม่ทั้งหมด 912 MWe คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยที่ CAGR +28.7% (2562 – 2565) โดยเฉพาะโครงการในเวียดนามทั้งแสงอาทิตย์และลม มีแนวโน้มจะให้ Capacity factor สูงกว่าไทยซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขณะที่ภาวะล้นตลาดของแผงโซลาร์ที่ กดดันราคาอยู่เดิมแล้วเมื่อเกิด COVID-19 ยิ่งกดดันราคาต่ำลงมำกขึ้นทำให้งบลงทุนในโครงการใหม่ๆของถูกลงเหลืองเพียง 20 ลบ.+/- ต่อ MW เท่านั้น และแม้ค่่าไฟต่อหน่วยในเวียดนามจะต่ำกว่าในไทยแต่ด้วยเงินลงทุนต่อ MW และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ที่ต่ำกว่ามากทำให้โครงการในเวียดนามมี GPM และ NPM สูงกว่าไทย ซึ่งจะช่วยหนุน GPM เพิ่มขึ้นเป็น 57 – 59% จากเดิมต่ำเพียง 53 -54%
กำไรปกติจะ New high ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปี 2566
เราคาดกำไรปกติปี 2563 ที่ 1,610 ลบ. (+44.5%YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ ได้รับแรงหนุนจาก
1) รับรู้รายได้ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Phan Lam, Binh An และ Van Giao 1 - 2 4 โครงการ รวมขนาด 187MWe เต็มปี
2) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Thinh Long (50MWe) และ โครงการ Sinenergy Ninh Thuan (50MWe) ประเทศเวียดนาม ซึ่ง COD ไปเมื่อเดือน มิ.ย. –ธ.ค. 62 แต่ เริ่มรับรู้รายได้ใน 1Q63 และ 2Q - 3Q63 ตามลำดับ เนื่องจากมีปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น
และ 3) เริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โครงกำร SEE6 (8MWe) ที่ COD ไปเมื่อสิ้นเดือน เม.ษ 63 แต่กำไรปกติปี 2564 จะเด่นมากจากการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ๆ เราคาดที่ 2,562 ลบ. (+59.2%YoY) ได้รับแรงหนุนจาก 1) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Thinh Long และ Sinenergy Ninh Thuanรวมขนาด 100 MWe เต็มปี 2) รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Loc Ninh 1 –3 รวมขนาด 490 MWe เต็มปี 3) เริ่มทยอยรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม 4 โครงการ ขนาดรวม 421 MWe ทยอย COD ตังแต่ 1Q64 -4Q64เราคาดกำไรของ SUPER ทำ New high ไปเรื่อยจนถึงปี 2566
เปลี่ยนภาพจากหุ้น High risk เป็นหุ้นปลอดภัย เริ่มต้นคำแนะนำ ซื้อ
เราคาดกำไรปกติปี 2563 ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,610 ลบ. (+44.5%) และเติบโตอีก 59.2% ในปี2564 เป็น 2,562 ลบ. จากโครงการแสงอาทิตย์และลมบางส่วนในเวียดนาม ขณะที่ปี 2565 จะรวมผลประกอบการ ของลม 4 โครงการเต็มปี และยังมีโครงการพลังงานขยะทยอย COD ต่อเนื่องทำให้กำไรปกติคาดว่าจะ New high ได้ถึงปี 2566 เป็นอย่างน้อยที่ระดับ 2.9 พันลบ. คิดเป็นการเติบโตที่ +27.1% CAGR 4 ปี (2562 – 2566) เราประเมินมูลค่า SUPER ด้วยวิธี DCF ที่ WACC 4.2% ด้วย Terminal growth 0% ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ของ SUPER ที่ 1.47 บาทต่อหุ้น มี Upside gain 69.0% เริ่มต้น คำแนะนำ “ซื้อ” และยังมี Upside จาก 1) โครงการ Loc Ninh 4 ขนาด 200 MW (160MWe) ที่ยังไม่รวม ไว้ในประมาณการ มีผลต่อราคาเป้าหมฃฃายปัจจุบันสูงถึง 0.23 บาทต่อหุ้น 2) Capacity Factor มีโอกาส ดีกว่าที่เราคาด โดยเราคาดไว้ที่ 17% สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม (BGRIM ทำได้ 18%) และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามเฉลี่ยเพียง 27% ในช่วงทดสอบบางแห่งสูงถึง 30% 3) อัตราดอกเบี้ยจ่ายอาจต่ำกว่ำที่เราคาดที่ 4.5% จากดอกเบี้ยขาลง 4) งบลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนามอาจต่ำกว่าที่เราคาดที่ 25 ลบ./MW จากข้อมูลของบริษัทเพียง 19.5 ลบ./MW 5) ยังมีโรงไฟฟ้าขยะที่รออนุมัติจำนวนมากที่ยังไม่รวมในประมาณการ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities