COVID-19 ฉุดกำไร 3Q63 ลดลง QoQ ,YoY
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ3Q63(สิ้นสุด 30 เม.ย 63) ที่ 36 ล้านบาท (-42%QoQ ,-56%YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 20% โดยไตรมาสนี้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในช่วง มี.ค. – เม.ย. ซึ่งทำให้ลูกค้าบางส่วนมีความกังวลในการเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลว่าจะมีโรคติดต่อ และผลจากนโยบายของรัฐที่ออก พ.ร.ก ฉุกเฉิน ทำให้ประชาชน ออกจากบ้านน้อยลง ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการปรับลดลง 18%YoY เหลือ 424 ล้านบาท ขณะที่ประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับลดลง จากผลของรายได้ที่ลดลง โดย EBITDA Margin ปรับลดลงจาก 3Q62 ที่ 22.4% เหลือ 13.4%
ปรับลดประมาณการจากผลกระทบ COVID-19 ที่แรงกว่าคาด
ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ต่อผลประกอบการ ที่รุนแรงกว่าที่เราคาดไว้ โดยจำนวนคนไข้ OPD และ IPD -15%YoY และ 22%YoY ต่ำกว่าที่เราคาดที่ -5% และ10% YoY ตามลำดับ และกำไรสุทธิ 9เดือนคิดเป็น 65% ของประมาณการเดิมทั้งปี ทำให้เรามีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลงจากเดิม 16% เหลือ 261 ล้านบาท (-18%YoY) โดยปรับลดสมมติฐานจำนวนผู้ป่ วย OPD และ IPD ปีนี้จากเดิมที่คาด -0.5%YoY และ -1.5%YoY เป็น -6%YoY และ -8%YoY ตามลำดับ ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการปรับลดลงจากเดิม 6% เป็น 2,042 ล้านบาท และปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมที่ 26.4% เหลือ 25.1% สำหรับปี 2564 เราปรับลดประมาณการกำไรลง 8% จากเดิมเหลือ 301 ล้านบาท (+15%YoY) จากการปรับลดสมมติฐานรายได้ลง 4% และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิม 26.9% เหลือ 26.6% ดังแสดงในตารางหน้าถัดไป
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เรามองว่าผลประกอบการผ่านช่วงแย่ที่สุดไปแล้ว ในเดือน พ.ค.เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวหลังรัฐบาล ผ่อนคลายมาตรการ lockdown เฟส3 ทำให้คนไข้กลับมาใช้บริการมากขึ้น และเราคาดกำไรจะกลับมาเติบโตในปี 2564 ราว 15%YoY ขณะที่ระยะยาวคาดเติบโตตามแผนในการเปิด โรงพยาบาลไทยนครินทร์ 2 ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการให้บริการผู้ป่วย OPD จากเดิม 2,000 คนต่อวัน เป็น 3,000 คนต่อวัน และการให้บริการ IPD จากเดิม 190 เตียงต่อวันไปเป็น 300 เตียงต่อวัน โดยจะเริ่มสร้างในปี 2564 และเปิดให้บริการในปี 2566 ซึ่งได้รวมไว้ใน ประมาณการแล้ว ทังนี้ ราคาหุ้นปัจจุบัน ถือว่า Undervalue และถูกสุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย อุตสาหกรรมโรงพยาบาล โดยราคาปัจจุบัน ซื้อขายที่ P/E ปี2563 และปี 2564 ที่ 21x และ 18x เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมโรงพยาบาลที่ 27x และ 24x ตามล าดับ อย่างไรก็ตาม ผลจากการปรับลดประมาณการ และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายของปี 2564 ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐานลดลง เหลือ 35.80 จากเดิมที่ 38.00 บาท โดยใช้วิธี DCF (อิงสมมติฐาน WACC ที่ 6.4% และ LT growth ที่ 1% )
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities