CPF รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q20 สูงถึง 6,111 ลบ. (+43%YoY,+52%QoQ แต่ถ้าไม่รวมกำไรจากการขายเงินลงทุน (864 ลบ.) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (349 ลบ.) ผลขาดทุนจากด้อยค่า รวมกว่า 2000 ลบ. (ทั้งทางการเงินและสินทรัพย์ชีวภาพ) กำไรปกติจะอยู่ที่ระดับ 7,000 ลบ. ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 5,700 ลบ.เป็น อย่างมาก ได้รับผลดีจากราคาเนื้อสุกรที่เวียดนามที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 60%YoY และ 15%QoQ (ส่วนปริมาณขายเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย 1 - 2 %YoY) โดยรายได้อยู่ที่ 13 8,135 ลบ. (+10%YoY, - 2%QoQ)
นอกเหนือจากธุรกิจที่เวียดนามแล้วธุรกิจในประะเทศและที่จีนมีการเติบโตได้เช่นกัน (ที่จีนแม้ว่ารายได้จากอาหารสุกรจะลดลงแต่ได้รับคำสั่งซื้อจากอาหารไก่เข้ามาแทน) กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1 8.3% ดีขึ้นจาก 14% ใน 1Q19 และ 15.7% ใน 4Q19 จากผลดีของราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นโดย เฉพาะที่เวียดนามตามที่กล่าวไป ส่วนราคาในไทยแม้จะค่อนข้างทรงตัว (สุกร - 1%YoY แต่ +20%QoQ ไก่ +3%YoY,-1%QoQ) แต่ได้รับผลดีจากต้นทุนการเลี้ยง ที่ปรับลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ระดับ 13, 945 ลบ. (+1 4%YoY, - 9%QoQ) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนมีจำนวน 2,680 ลบ. (+14%YoY,+11%QoQ) จากการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งจากเงินลงทุนใน Hylife เข้ามากว่า 385 ลบ.
2Q20 อาจจะไม่ดีเท่า 1Q20 แต่ยังโตเมื่อเทียบกับปีก่อน
แนวโน้มในช่วง 2Q20 เบื้องต้นคาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 1Q20 หลังจาก รัฐบาลมีมาตรการล๊อคดาวน์ไปในเดือนเม.ย. และทำให้การบริโภคในประเทศลดลง และทำให้ราคาในประเทศปรับตัวลดลงตามไปด้วย แต่หลังจากเิริ่มปลดลีอค บางส่วนตั้งแต่เดือน พ.ค. ราคาเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แล้ว (อีกทั้งผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ในอุตสาหกรรมมีการปรับลดกำลังการผลิตลงซึ่งจะทำให้ราคาปรับตัว เพิ่มขึ้นได้อีกทาง) แต่หากเทียบกับปีก่อนยังเห็นการเติบโตได้จากผลดีของราคา สุกรที่เวียดนามที่ยังอยู่ในระิดับสูงซึ่งผู้บริหารมองว่ากว่าการเลี้ยงจะกลับสู่ภาวะ ปกติจะใช้เวลาประมาณ 2.5 ปี ซึ่งจะทำให้ราคามีโอกาสยืนในระดับสูงได้ต่อไป สำหรับภาพรวมการส่งออกนั้นในส่วนของการส่งออกไก่จากไทยตลาดสำคัญอย่าง EU ในระยะสั้นมีภาวะไก่ล้นตลาด ส่วนญี่ปุ่นระยะสั้นได้รับผลกระทบจากการเลื่อน การแข่ง Olympic ออกไป แต่ตลาดจีนยังคงมีความต้องการเพิ่มอยู่
ด้านราคาคาด ว่าไม่ไิด้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากคู่แข่งหลักอย่างบราซิลและสหรัฐฯมีปัญหา โรงงานต้องปิดเพราะมีผู้ติดเชื้อ COVID มาก ส่วนธุรกิจสุกรแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะ ส่งออกได้ไม่มากนัก แต่ยังมีตลาดใหม่ๆที่มีโอกาสเพิ่มได้อีกอย่างเช่น สิงคโปร์ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรต
ปรับประมาณการเล็กน้อย และยังคงคำแนะนำเดิม
จากผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้เราปรับกำไรสุทธิในปี 20 ขึ้นจากเดิมเล็กน้อยมาอยู่ที่ 18,706 ลบ. (+1%YoY แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรจะเพิ่ม กว่า 60%YoY) ทั้งนี้เรายังไม่รวมผลจากการซื้อ TESCO เข้ามาแต่อย่างใดจนกว่า จะมีความชัดเจนจากการพิจารณาของหน่วยงานภาครัฐโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุป ภายในกำหนดการเดิมในช่วง 4Q20 นี้ สำหรับคำแนะนำการลงทุน จากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่คาด เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 32.71 บาท ( 1 5XPER’20 E )
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
ดูกราฟและราคาหุ้น (BK:CPF)
https://th.investing.com/equities/charoen
กระดานสนทนาเกี่ยวกับหุ้น CPF