เมื่อคืนที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ของสหรัฐเดือนพ.ค. ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 15.8% และ เป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังหดตัวอย่างรุนแรงในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 18.1% และหดตัว 16.6% ในเดือนมี.ค. โดยยอดสั่งที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลจากการเริ่มผ่อนคลายมาตการ ล็อคดาวน์ในสหรัฐ ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอย กอปรกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคการเงินและการคลัง เป็นปัจจัยหนุนให้ผู้บริโภคในสหรัฐมีการใช้จ่ายมากขึ้น แสดงถึงมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันของสหรัฐ และเป็นสัญญาณถึงแนวโน้มการผลิตของภาคอุตสาหกรรมสหรัฐในเดือนต่อๆไปที่จะสูงขึ้น ส่งผลให้โรงงานมีระยะเวลาการผลิตและการทำงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดแรงงานในอนำคต
เมื่อคืนที่ผ่านมาคณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ได้มี ประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดจาก Volcker Rule (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดกฎหมำย Dodd-Frank ที่ก่อตั้งในสมัยรัฐบาล บารัก โอบามา เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยงของ สถาบันการเงินไม่ให้ลงทุนเสี่ยงเกินตัว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดวิกฤตทางการเงิน เมื่อปี 2008) โดยอนุญาตให้ธนาคารสหรัฐได้รับการยกเว้นการสำรองเงินสดสำหรับการ ซื้อขายตราสารอนุพันธ์ระหว่างบริษัทในเครือ ทำให้ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐ สามารถเข้าลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน (venture capital) หรือกองทุนอื่นที่มีลักษณะ คล้ายกันได้ ซึ่งการผ่อนคลายข้อกำหนดดังกล่าวเป็นบวกต่อภาคการเงินการธนาคาร ของสหรัฐ แต่กลับจะเพิ่มความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐในระยะถัดไปได้
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฟดประกาศให้ธนาคารหยุดซื้อหุ้นและจำกัดการจ่ายเงินปันผลหลังทดสอบภาวะวิกฤต
ตลาดแรงงานสหรัฐยังฟื้นยาก ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์นี้เกินคาดที่ 1.48 ล้านคน