สรุป ทองคํา เริ่มเผชิญแรงขายทํากําไร กดดันราคาร่วงลงมาทดสอบระดับตํ่าสุดเช้านี้บริเวณ 1,716.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดช่วงบวกจาก High เมื่อวานที่ทําไว้บริเวณ 1,739.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําเผชิญแรงขายทํากําไรหลังจากดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้น ขานรับความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจาก ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งมีชื่อว่า “American Rescue Plan Act of 2021” เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ (11 มี.ค.) อย่างไรก็ดี การร่วงลงของราคาทองคําเริ่มมี Downside ระยะสั้นที่จํากัด เนื่องจากดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีเริ่มลดความร้อนแรงลงมาจากช่วงก่อนหน้า คาดนักลงทุนรอดูปัจจัยสําคัญสัปดาห์หน้า ทั้งการประชุม FED และการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ-จีน ในรัฐอลาสก้าในวันที่ 18 -19 มี.ค. ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งสองฝ่ายหลังการเข้ารับตําแหน่งของปธน.โจ ไบเดน ทั้งนี้ นางเจน แปสกี โฆษกทําเนียบขาวระบุว่า สหรัฐจะไม่นิ่งเฉยกับนักการทูตจีน ้ไม่ว่าจะเป็นประเด็นไต้หวันหรือ..ความพยายามในการบั่นทอนประชาธิปไตยในฮ่องกง หรือความกังวลที่เรามีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ้ เธอเสริมว่า ้การจัดการประเด็นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์จะเป็นประเด็นหารือกับจีนโดยตรงในสัปดาห์หน้า้ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ระยะสั้นราคาทองคําเกิดแรงซื้อสลับเข้ามาเพิ่มขึ้น ในขณะที่แรงขายเข้ามากดดันในระดับสูงเช่นกัน แนะนํากลยุทธ์การลงทุน เข้าซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,719-1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ อาจพิจารณาแบ่งทองคําออกขายทํากําไรบางส่วนหากราคาทองคําไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,744-1,759 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ หากราคาไม่หลุด 1,719-1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์รอซื้อบริเวณดังกล่าว(ตัดขาด ทุนหากหลุด 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์) เน้นการลงทุนระยะสั้นและควรพิจารณา ถึงความเสี่ยงเนื่องจากราคาทองคําแกว่งตัวผันผวน
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th