ทำไมหุ้น FedEx ถึงปรับตัวขึ้น?
หุ้นของบริษัทผู้ให้บริการขนส่งด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเฟดเอกซ์ (NYSE:FDX) กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหลังจากที่ปี 2019 ทำผลงานได้ไม่เป็นที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนและกำลังแสดงให้ตลาดได้เห็นว่าวิกฤตโควิด-19 ไม่สามารถหยุดการเติบโตของธุรกิจขนส่งภายใต้แบรนด์เฟดเอกซ์ได้
ในระยะเวลา 3 เดือนล่าสุดหุ้นเฟดเอกซ์ทะยานขึ้นมาแล้วมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ที่ขึ้นมาเพียง 14% และมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $183.53 ปรับตัวขึ้นภายในวันเดียวมากกว่า 6% ในขณะที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมโดยส่วนใหญ่ต้องหยุดชะงักแต่ถ้ามองอีกด้านการที่ผู้คนต้องอยู่แต่ที่บ้านเท่านั้นทำให้ธุรกิจการข่นส่งไม่ว่าจะเป็นอาหาร พัสดุ ฯลฯ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นซึ่งเมื่อนึกถึงการส่งของใครๆ ก็นึกถึงเฟดเอกซ์
นอกจากนี้การที่เฟดเอกซ์ตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจใหม่มาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดสามารถเรียกได้ว่าเป็นโชคที่เข้าข้างก็ว่าได้ ก่อนที่โควิด-19 จะระบาดไปทั่วโลกเฟดเอกซ์ได้เพิ่มความสามารถในการทำธุรกิจของตัวเองด้วยการส่งของให้ถึงมือผู้รับภายใน 7 วัน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความสามารถในการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่มากกว่าเดิมและเปลี่ยนมาใช้ซอฟท์แวร์ตัวใหม่ที่ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าของตนเองได้ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้เฟดเอกซ์สามารถทำได้โดยมีการลดต้นทุนมาแล้วและยังช่วยเพิ่มกำไรและผู้ใช้งานให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้น
การเพิ่มบริการขนส่งทางบกให้เยอะขึ้น
จากการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุดในเดือนพฤษภาคมและสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์มาได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเฟดเอกซ์มีการเตรียมตัวและสามารถปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงใหม่ใหม่ได้ดี ยอดขายจากการขนส่งทางบกของเฟดเอกซ์เพิ่มขึ้น 20% ยกตัวอย่างเช่นกำไรจากการส่งของไปถึงหน้าบ้านลูกค้าเพิ่มขึ้น 72% เมื่อเทียบกับกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ที่เคยทำได้ 56%
ก่อนที่การระบาดจะมาถึงเฟดเอกซ์กำลังประสบปัญหาในการเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมาเนื่องจากระบบการขนส่งสินค้าของบริษัท TNT Express ที่เฟดเอกซ์ไปควบรวมมาได้ในปี 2015 ถูกโจมตีทางไซเบอร์และเฟดเอกซ์ต้องใช้เงินจำนวนมากในการบูรณะระบบปฏิบัติการดังกล่าวขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบยูโรโซนทำให้เกิดการตั้งคำถามกับเฟดเอกซ์ขึ้นมาว่าการลงทุนซื้อ TNT นั้นคุ้มค่าจริงๆ ใช่หรือไม่ แต่ตอนนั้นเองที่วิกฤตโรคระบาดเข้ามาและทำให้ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้บริการของบริษัทขนส่งที่มีอยู่ในตอนนี้
Brie Carere หัวหน้าฝ่ายการตลาดของเฟดเอกซ์ได้ตอบคำถามกับนักวิเคราะห์ในเดือนมิถุนายนว่า “ฉันหวังว่าลูกค้าจะให้ความไว้วางใจและใช้บริการของเราไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคมและต่อๆ ไป การเข้ามาของโควิดคือการเปลี่ยนโครงสร้างการแข่งขันทางการตลาดไปอย่างแท้จริง”
การเติบโตขึ้นของกำไรการขนส่งทางบกของเฟดเอกซ์มาควบคู่กับการบริหารธุรกิจที่ดี ในช่วงที่บริษัทต้องเจอกับโรคระบาดเฟดเอกซ์ก็ได้ตัดสินใจลดต้นทุนในบางส่วนที่ไม่จำเป็นออกเช่น ลดการขนส่งทางอากาศ งดแผนการลงทุนทางธุรกิจเพิ่ม ลดจำนวนพนักงานลงและลดการให้เงินรางวัลจูงใจซึ่งการปรับกลยุทธ์เกมบุกลงมาเป็นเกมรับของเฟดเอกซ์ถือว่าทำได้ประทับใจนักวิเคราะห์จนทำให้บริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินแห่งหนึ่งนาม Stephens ถึงกับปรับเป้าหมายของหุ้นเฟดเอกซ์จาก $180 ขึ้นเป็น $215
“การเปลี่ยนกลยุทธ์ของเฟดเอกซ์รอบนี้อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2013 มาเลยก็ว่าได้ ในตอนนั้นเฟดเอกซ์ก็เคยเปลี่ยนโครงสร้างภายในประกอบกับการพัฒนาจุดเล็กๆ ในระบบการขนส่งซึ่งทำให้หุ้นของเฟดเอกซ์ปรับตัวสูงขึ้นใน 18 เดือนต่อจากนั้น การทะยานขึ้นในวันนี้ของหุ้นเฟดเอกซ์ทำให้เรานึกว่าภาพในปี 2013 ไม่ผิดไปจากในอดีตเลย” นักวิเคราะห์จาก Stephens กล่าว
นอกจากนี้โพลผลสำรวจนักวิเคราะห์ 28 คนเผยว่า 21 คนให้คะแนนหุ้นเฟดเอกซ์อยู่ในกลุ่ม “หุ้นน่าซื้อ” และอีก 7 คนแนะนำให้ “ถือเอาไว้” ถึงแม้ว่าตอนนี้หุ้นเฟดเอกซ์กำลังอยู่ในเส้นทางของแนวโน้มขาขึ้นแต่จุดสูงสุดของราคาหุ้นในปัจจุบันยังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ $574.66 ที่สร้างขึ้นในปี 2018 อยู่ดี
โดยสรุปแล้ว
เฟดเอกซ์ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของบริษัทที่สามารถเปลี่ยนตัวเองโอบรับ e-commerce และเอาตัวรอดจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ไปได้ การหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจการขนส่งทางบกดั้งเดิมและเพิ่มความสามารถในการขนส่งนั้นให้ดีขึ้น เข้าใจพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าสมัยใหม่เพิ่มขึ้นช่วยให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นและนั่นคือสาเหตุที่ช่วยให้หุ้นเฟดเอกซ์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน